เมนูนำทาง
อะไมโลพลาสต์ บทบาทในการตรวจจับแรงโน้มถ่วงอะไมโลพลาสต์มีความสำคัญต่อการเบนเนื่องจากความโน้มถ่วง สตาโทลิทซึ่งเป็นอะไมโลพลาสต์ที่มีการพัฒนามาโดยเฉพาะ มีความหนาแน่นมากกว่าไซโทพลาซึม สามารถรวมกลุ่มที่ด้านล่างของเซลล์รับรู้แรงโน้มถ่วงที่เรียกว่าสตาโทไซต์[5] การรวมกลุ่มนี้เป็นกลไกสำคัญในการรับรู้แรงโน้มถ่วงของพืช ทำให้เกิดการกระจายฮอร์โมนออกซินแบบอสมมาตร ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวทำให้พืชลำต้นพืชมีความโค้งและเจริญเติบโตต้านเวกเตอร์ของแรงโน้มถ่วง[6][7] สำหรับในรากจะเจริญเติบโตไปตามแรงโน้มถ่วง พืชที่ขาดฟอสโฟกลูโคมิวเทส (phosphoglucomutase, pgm) เป็นพืชที่กลายพันธุ์ที่ไม่มีเม็ดแป้ง สตาโทลิทจึงไม่สามารถเกาะกลุ่มกันได้[8] พืชกลายพันธุ์นี้แสดงการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงที่น้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับพืชที่ไม่กลายพันธุ์[8][9] พืชที่กลายพันธุ์สามารถทำให้มีการตอบสนองแบบเดียวกับพืชปกติได้ด้วยการเพิ่มค่าแรงโน้มถ่วงให้มากกว่าค่าบนพื้นผิวโลก (hypergravity)[9] ในรากจะรับรู้แรงโน้มถ่วงที่หมวกราก ซึ่งเป็นส่วนของเนื้อเยื่อปลายสุดของราก เมื่อนำหมวกรากออก รากจะสูญเสียความสามารถในการรับรู้แรงโน้มถ่วง[5] อย่างไรก็ตามหากหมวกรากเจริญขึ้นมาใหม่[10] การตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงของรากจะกลับมาอีกครั้ง ลำต้นพืชสามารถรับรู้แรงโน้มถ่วงด้วยเซลล์เอนโดเดอร์มิสที่บริเวณยอด[5]
เมนูนำทาง
อะไมโลพลาสต์ บทบาทในการตรวจจับแรงโน้มถ่วงใกล้เคียง
อะไมโลเพกทิน อะไมโลพลาสต์ อะไมโอโทรฟิก แลเทอรัล สเกลอโรซิส อะไมโลส อะไซโคลเวียร์ อะไมลอยด์แหล่งที่มา
WikiPedia: อะไมโลพลาสต์ //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10322541 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11539189 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15012188 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15491921 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/19152486 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24004104 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24435121 //doi.org/10.1007%2FBF00390700 //doi.org/10.1016%2FS1360-1385(99)01376-X //doi.org/10.1016%2Fj.pbi.2004.09.001