เมนูนำทาง
กงส์ต็องส์แห่งอาร์ล ประวัติกงส์ต็องส์แห่งอาร์ลประสูติในปี ค.ศ. 986[1] โดยทรงเป็นธิดาของกีโยมที่ 1 เคานต์แห่งพรอว็องส์กับภรรยาคนที่สอง อาเดลาอีด-บล็องช์แห่งอ็องฌูซึ่งเป็นธิดาของฟูลก์ที่ 2 เคานต์แห่งอ็องฌู[2] ทรงเป็นพี่น้องกับกีโยมที่ 2 เคานต์แห่งพรอว็องส์[2]
ตามธรรมเนียมปฏิบัติในยุคนั้น เด็กผู้หญิงจะถูกตั้งชื่อตามมารดา, ย่า หรือยายของของตน กงส์ต็องส์ถูกตั้งชื่อตามย่าของตน คือ กงส์ต็องส์ เคานเตสแห่งพรอว็องส์ ภรรยาของโบซงที่ 2 เคานต์แห่งพรอว็องส์[3]
ในปี ค.ศ. 998 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 5 ได้ตัดพระเจ้ารอแบร์ที่ 2 ผู้ศรัทธาแห่งฝรั่งเศสออกจากศาสนาและได้ประกาศให้การสมรสครั้งที่สองของพระองค์กับแบร์ตแห่งบูร์กอญ พระมเหสีคนที่สองเป็นโมฆะเนื่องจากเป็นญาติที่มีสายเลือดใกล้ชิดกันเกินไป อีกทั้งแบร์ตยังไม่มีพระโอรสธิดาให้พระองค์แม้ว่าจะอยู่กินกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่พระองค์ได้ทิ้งโรซาลาแห่งอิตาลี พระมเหสีคนแรกในปี ค.ศ. 911 ต่อมาพระเจ้ารอแบร์ได้รับกงส์ต็องส์มาเป็นพระมเหสีคนที่สาม
การสมรสของกงส์ต็องส์กับพระเจ้ารอแบร์ที่ 2 ผู้ศรัทธาเกิดขึ้นราวปี ค.ศ. 1003[4] ทั้งคู่ก็มีพระโอรสธิดาด้วยกันอย่างน้อย 4 คน คือ
ชีวิตสมรสของกงส์ต็องส์กับพระเจ้ารอแบร์เต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้ง ครอบครัวของแบร์ตต่อต้านกงส์ต็องส์ และกงส์ต็องส์ถูกชิงชังจากการนำเครือญาติและธรรมเนียมปฏิบัติแบบพรอว็องส์มาใช้ในฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1007 อูกแห่งโบแว สหายของพระเจ้ารอแบร์พยายามเกลี้ยกล่อมให้พระองค์ทิ้งกงส์ต็องส์แต่ต่อมาโบแวถูกฆาตกรรม อาจจะโดยกงส์ต็องส์ที่ร้องขอให้อัศวิน 12 คนของฟูลก์ แนรา ญาติของพระองค์ทำการฆาตกรรม[5]
ความมากเล่ห์และความโหดเหี้ยมของกงสต็องส์ทำให้พระองค์ไม่เป็นที่รักของราชสำนัก พระเจ้ารอแบร์เองได้พยายามหลายครั้งเพื่อจะทิ้งพระองค์และรับแบร์ตกลับมาเป็นพระมเหสี ในปี ค.ศ. 1010 กษัตริย์ได้เดินทางไปโรมพร้อมกับแบร์ต อดีตพระมเหสีเพื่อขอหย่ากับกงส์ต็องส์และกลับมาสมรสกับแบร์ตอีกครั้ง ทว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเซอร์จิอุสที่ 4 ไม่เห็นชอบกับการสมรสระหว่างผู้ร่วมสายโลหิตเดียวกันที่เคยถูกประณามจากสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 5 อีกทั้งพระเจ้ารอแบร์เคยทิ้งพระมเหสีมาแล้วถึงสองครั้ง คำขอของพระองค์จึงถูกปฏิเสธ หลังเดินทางกลับมาฝรั่งเศส แหล่งข้อมูลหนึ่งกล่าวว่าพระเจ้ารอแบร์ "รักพระมเหสีของพระองค์มากขึ้น"[6] ขณะที่ราชสำนักได้แตกออกเป็นสองฝั่งคือฝั่งของกงส์ต็องส์กับฝั่งของแบร์ต
กงส์ต็องส์เร่งเร้าให้ทำการสวมมงกุฎให้อูกเลอกร็อง พระโอรสคนโตที่สุดท้ายได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ร่วมกับพระบิดาในปี ค.ศ. 1017[7] แต่ภายหลังอูกได้เรียกร้องขอแบ่งปันอำนาจจากพระบิดามารดาและก่อกบฏต่อพระบิดาในปี ค.ศ. 1025 ทำให้กงส์ต็องส์โกรธจัดและดุด่าต่อว่าพระโอรส ภายหลังอูกได้คืนดีกับพระบิดามารดาแต่หลังจากนั้นไม่นานพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยวัย 18 พรรษา การสูญเสียสร้างความเสียใจแก่สองสามีภรรยาเป็นอย่างมาก พระราชินีโศกเศร้ารุนแรงจนคนรอบข้างเป็นห่วงสภาพจิตใจของพระองค์[8]
พระเจ้ารอแบร์กับกงสต็องเหลือพระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่อีกสองคน คือ อ็องรีกับรอแบต์ ซึ่งกงสต็องส์โปรดปรานคนหลังมากกว่าและต้องการให้ได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์ต่อจากพระบิดา[9] ทว่าพระสวามีของพระองค์กลับเลือกอ็องรีเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากตน แม้จะถูกคัดค้านจากพระมารดาและบิชอปฝ่ายที่สนับสนุนพระมารดา แต่อ็องรีได้รับการสนับสนุนจากดยุคแห่งนอร์ม็องดี, เคานต์แห่งอ็องฌู และเคานต์แห่งแฟลนเดอส์ พระองค์ก็ได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ร่วมในปี ค.ศ. 1027
หลุมฝังศพของรอแบร์ผู้ศรัทธากับกงส์ต็องส์แห่งอาร์ลที่แซ็ง-เดอนีต่อมาพระโอรสทั้งสองของพระเจ้ารอแบร์ได้ก่อกบฏโดยมีกงส์ต็องส์ให้การสนับสนุน ทั้งคู่ได้โจมตีและปล้นเมืองกับปราสาทที่เป็นของพระบิดา รอแบร์ผู้ลูกโจมตีบูร์กอญ ดัชชีที่พระบิดาเคยสัญญาว่าจะยกให้พระองค์แต่กลับไม่ยอมยกให้เสียที ส่วนอ็องรีได้ทำการปิดล้อมเดรอ สุดท้ายพระเจ้ารอแบร์ยอมรับข้อเสนอของพระโอรสทั้งสองและได้ทำข้อตกลงสันติภาพซึ่งคงอยู่ไปจนกษัตริย์สิ้นพระชนม์
พระเจ้ารอแบร์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1031[10] กงส์ต็องส์พยายามจะสังหารอ็องรีแต่ทำไม่สำเร็จ อ็องรีได้ขึ้นครองบัลลังก์ ทรงคืนดีกับรอแบร์ พระอนุชาและยกดัชชีบูร์กอญให้ หลังจากนั้นไม่นานกงส์ต็องส์ก็ล้มป่วย ทรงบาดหมางใจกับพระโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งสอง พระองค์ได้ยึดดินแดนที่เป็นสินเดิมติดตัวของตนคืนมาและไม่ยอมจำนนต่อพระโอรสทั้งสองจนพระเจ้าอ็องรีต้องหนีไปนอร์ม็องดี ที่นั่นรอแบร์ พระอนุชาของของพระเจ้าอ็องรีได้ให้ความช่วยเหลือพระองค์ในด้านอาวุธและกำลังทหาร กษัตริย์กลับมาทำการปิดล้อมพระมารดาที่ปัวส์ซีแต่พระนางได้หนีไปปงตวซ พระเจ้าอ็องรีได้ยึดเลอปุยแซและประกาศว่าจะสังหารชาวเมืองทุกคน กงส์ต็องจึงต้องยอมจำนนในท้ายที่สุด
กงส์ต็องส์สิ้นพระชนม์หลังจากไอจนหมดสติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1032[2] ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างพระเจ้ารอแบร์ผู้เป็นพระสวามีในมหาวิหารแซ็งต์-เดอนี[11]
เมนูนำทาง
กงส์ต็องส์แห่งอาร์ล ประวัติใกล้เคียง
กงส์ต็องตีน (ประเทศแอลจีเรีย) กงส์ต็องส์แห่งอาร์ล กงส์ต็องส์ ดัชเชสแห่งเบรอตาญ กงส์ต็องส์แห่งบูร์กอญแหล่งที่มา
WikiPedia: กงส์ต็องส์แห่งอาร์ล https://www.encyclopedia.com/women/encyclopedias-a...