กระรอกบิน เป็น
กระรอกจำพวกหนึ่ง ที่อยู่ใน
เผ่า Pteromyini หรือ Petauristini
[2] มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากกระรอกจำพวกอื่น คือ มีแผ่นหนังลักษณะคล้ายพังผืดที่บริเวณข้างลำตัวตั้งแต่ขาหน้าถึงขาหลัง สำหรับกางเพื่อร่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง โดยมีหางและกระดูกอ่อนพิเศษที่ยื่นออกมาจากข้อเท้าหน้าเพื่อช่วยในการควบคุมทิศทางกระรอกบินมีพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากกระรอกในกลุ่มอื่น คือ หากินในเวลา
กลางคืน มีดวงตา
กลมโต
สีดำสะท้อนแสงไฟ กระรอกบินจะอาศัยอยู่เฉพาะใน
ป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ อาหารหลัก คือ
แมลง หากินหลักอยู่บน
ต้นไม้ แต่ก็สามารถลงมาหากินบนพื้น
ดินได้ในบางครั้งแม้จะได้ชื่อว่า กระรอกบิน แต่แท้ที่จริงแล้วกระรอกบินก็ทำได้เพื่อแค่
ร่อน หรือโต้อากาศโดยใช้พังผืดนี้อยู่กลางอากาศได้เพียงสั้น ๆ เท่านั้น โดยการกระโจนจาก
ต้นไม้อีกต้นไปยังอีกต้นหนึ่งเท่านั้นกระรอกบินมีทั้งหมด 44
ชนิด ใน 15
สกุล พบได้ใน
ทวีปอเมริกาเหนือ,
ทวีปยุโรปตอนเหนือและ
ทวีปเอเชีย บางชนิดจัดเป็นกระรอกขนาดใหญ่เทียบเท่าพญากระรอก เช่น
พญากระรอกบินสีดำ (Aeromys tephomelas) บางชนิดอยู่ในสถานะใกล้
สูญพันธุ์แล้ว เช่น
กระรอกบินเล็กแก้มขาว (Hylopetes phayrei) เป็นต้น ใน
ประเทศไทยพบทั้งหมด 13 ชนิด จาก 6 สกุล ได้แก่นอกจากนี้แล้ว ยังมี
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกอื่น ที่มีลักษณะและพฤติกรรมคล้ายคลึงกระรอกบินมาก ได้แก่
บ่าง (Galeopterus variegatus) ที่อยู่ใน
อันดับบ่าง และ
จิงโจ้บิน หรือ ชูการ์ไกล์เดอร์ (Petaurus breviceps) ซึ่งอยู่ใน
อันดับสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง ซึ่งสัตว์ทั้ง 2 จำพวกนี้มิใช่สัตว์ใน
อันดับสัตว์ฟันแทะอย่างกระรอก แม้จะมีรูปหน้าหน้าตาและพฤติกรรมคล้ายกับกระรอกบินก็ตาม แต่กระนั้นก็ยังมีผู้เข้าใจผิดเสมอ ๆ ว่า สัตว์ทั้ง 2 จำพวกนี้เป็นกระรอกบิน อีกทั้งใน
ภาษาเหนือและ
ภาษาอีสานของไทย ก็ยังเรียกกระรอกบินขนาดใหญ่ ว่า บ่าง ด้วยเช่นกัน
[3]