เนื้อหา ของ กลาย

ส่วนที่ 1

Als Gregor Samsa eines Morgens aus unruhigen Träumen erwachte, fand er sich in seinem Bett zu einem ungeheueren Ungeziefer verwandelt[2]

ในขณะที่เกรกอร์ สัมซ่า ตื่นมาตอนเช้าจากการฝันร้าย เขาได้พบว่าตัวเขาได้กลายเป็นแมลงไปแล้ว เขา (เกรกอร์ สัมซ่า) คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเพียงแค่ชั่วคราว จึงพยายามปรับตัวเข้ากับ"การเปลี่ยนแปลง" เริ่มแรกเขาลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ จึงทำการคิดถึงอาชีพของเขา ซึ่งเป็นพ่อค้าขายผ้าซึ่ต้องเดินทางเรื่อยๆ ด้วยความที่ต้องใช้หนี้ให้ครอบครัวและการที่เป็นคนหาเงินเข้าบ้าน เขาจึงจำใจทำงานนั้น แต่ถ้าหากเขาเลือกได้เขาก็จะลาออกทันที ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกผูกมัดกับอาชีพของเขา แต่เนื่องจากที่ทำงานรอเขาอยู่ในวันนั้นและในร่างนี้เขาไม่สามารถออกจากบ้านได้ ผู้จัดการจึงแวะมาถึงที่บ้าน เพื่อมาดูว่าเหตุใดจึงไม่ไปทำงานและเพื่อมาสั่งให้ไปทำงาน ครั้นเจ้านายได้มาพบเขาในสภาพนั้นก็ได้เผ่นหนีทันที เช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะพ่อที่ไล่และขู่ให้เขากลับเข้าไปในห้อง

ส่วนที่ 2

ด้วยการที่เกรกอร์ทำงานไม่ได้ การเงินภายในครอบครัวจึงต้องแย่ลง แต่แล้วกลับกลายเป็นว่าครอบครัวมีเงินเก็บที่เกรกอร์ไม่เคยรู้ จากนั้นมาทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป จากเดิมที่เกรกอร์จะส่งน้องสาวไปมหาวิทลัย เพื่อเรียนดนตรี กลายเป็นว่าน้องสาวต้องมาเลี้ยงดูเขาแทน แต่น้องสาวไม่ได้ทำเพราะความเป็นพี่น้องหรือความเห็นใจ เธอดูแลเขาเพราะเธอต้องการให้พ่อแม่เห็นความสำคัญของเธอ สิ่งที่เดิมแสดงถึงความเป็นมนุษย์ของเกรกอร์เริ่มหายไป กลาย เป็นสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์แทน เขาเองก็ปลงใจและยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของเขา โดยตอนนี้เขามีความสามารถในการไต่กำแพงและพนังได้ ครั้นแม่เขาและน้องสาวจะเก็บของออกจาากห้องเพื่อให้เขาสามารถไต่กำแพงได้สะดวก เขาก็ได้พยายามปกป้องภาพผู้หญิงในชุดขนสัตว์ไว้ ซึ่งเป็นภาพที่เขารักมาก ครั้นเขาไต่ไปทับภาพ แม่เขาคิดว่าเขาจะโจมตี จึงตกใจ ทำให้น้องสาวเขาต้องรีบไปเอายาจากห้องครัว เขาตามน้องสาวไปในครัว ในขณะที่หันกลับมายาตกใส่และกัดเขา ในขณะนั้นพ่อกลับมาและโยนแอปเปิ้ลไล่เขา ซึ่งลูกหนึ่งได้ติดอยู่ในหลังเขาและทำให้เขาบาดเจ็บอย่างสาหัส

ส่วนที่ 3

ในสัปดาห์ต่อๆมา เนื่องจากการบาดเจ็บจากแอปเปิ้ลเน่าที่ฝังอยู่ในหลัง เขาไม่กินอาหารแล้ว และในขณะนั้นไม่มีใครในครอบครัวดูแลเขา ห้องส่วนตัวกลายเป็นห้องเก็บของ เพื่อให้การเงินดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวจึงหางานทำและได้เปิดห้องที่เหลือในบ้านให้เช่า ในขณะเดียวกันเขาถูกปล่อยและเริ่มอยู่คนเดียวตัดจากโลกภายนอก ในบางครั้งที่ผู้เช่าไม่อยู่ ครอบครัวเขาเปิดประตูให้ ในขณะที่ครอบครัวอยู่ในห้องครัวแต่เขาอยู่ในห้องเก็บของนั้น และในวันหนึ่งประตูห้องได้เปิดคาไว้และในขณะนั้นเสียงไวโอลินของน้องสาวทำให้เขาได้ออกมาฟัง ซึ่งทำให้ผู้เช่าทั้งสามเห็นเขา ทำให้ผู้เช่านั้นได้อ้างต่อครอบครัวว่าบ้านสกปรกและยกเลิกสัญญาเช่าทันที และทันใดนั้นน้องสาวเขาได้คิดและพูดถึงการตัดหางปล่อยวัด เธอเองมองไม่เห็นสิ่งที่เป็นพี่ชายของเธอแล้ว จึงเรียกเขาว่า"มัน" เขาเองเข้าใจแล้วว่าไม่มีใครต้องการเขา และ ตายในสภาพที่แห้ง โทรม ผอม ก่อนที่ตะวันจะทอแสง ในวันต่อมาคนใช้ได้เจอซากของมันและได้โยนมันทิ้งเรื่องเล่านี้จบด้วยการเดินปิ๊กนิคในวันที่สุดสวยในเมือง

"In entspannter Aufbruchsstimmung spricht man von einem Neuanfang und baldigen Wohnungswechsel, und die Eltern erkennen in ihrer reif gewordenen Tochter eine aufblühende, junge Frau, auf der nun alle ihre zukünftigen Hoffnungen ruhen, und denken daran, „dass es nun Zeit werde, auch einen braven Mann für sie zu suchen.

มีแต่การพูดถึงการเริ่มต้นใหม่และการย้ายบ้านท่ามกลางบรรยากาศที่สดใสและดีขึ้นเรื่อยๆ และพ่อแม่ต่างได้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ของลูกสาว ซึ่งเป็นสตรีที่สดใส และสตรีที่ทุกคนได้ตั้งความหวังไว้ และพวกเขาคิดว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะหาผู้ชายน่ารักๆให้เธอ