เมนูนำทาง
กองเสือป่า การจัดกำลังภายหลังพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาพิเศษเสือป่าเป็นครั้งที่ 2 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2454 แล้ว ได้โปรดเกล้าฯ จัดแบ่งสมาชิกเสือป่าออกเป็น 3 กอง คือ กองร้อยที่ 1 และ กองร้อยที่ 2 กับมีกองฝึกหัดอีก 1 กอง โดยกองร้อยที่ 1 ซึ่งเป็นกองเริ่มแรกนั้น นอกจากจะได้โปรดเกล้าฯ ให้ทำหน้าที่เป็นกองรักษาพระองค์ร่วมกับหน่วยทหารรักษาพระองค์แล้ว ยังได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานขนนกขาวให้ปักที่ข้างขวาหมวกเป็นเกียรติยศพิเศษ โดยนายเสือป่าชั้นนายกองมีพู่ขนนกใหญ่ปักที่ขวาหมวกในเวลาแต่งเต็มยศหรือครึ่งยศ ส่วนเวลาแต่งเครื่องปกติคงปักขนนกขาวเล็กเช่นเดียวกับนายเสือป่าชั้นนายหมู่
ต่อจากนั้นได้มีการขยายการจัดตั้งกรมกองเสือป่าออกไปยังหัวเมืองมณฑลต่างๆ ทั่วพระราชอาณาจักร "ชั้นต้นตามจังหวัดจัดเปนหมวดเสือป่าราบ มีข้าราชการสัญญาบัตร์เปนพื้น; ต่อมาไม่ช้าพวกเสมียนพนักงานทุกน่าที่ได้สมัคเปนสมาชิก, และขยายการปกครองขึ้นเปนกองร้อย;" แล้ว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างธงไชยเฉลิมพลประจำกองเสือป่า และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในการพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาพิเศษและพระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่กองเสือป่ามณฑลนครไชยศรี (นครปฐม) มณฑลปราจิณบุรี มณฑลพิษณุโลก มณฑลนครสวรรค์ มณฑลกรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) ตามลำดับ
ถัดมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 มีหลักฐานปรากฏชัดว่าสมาชิกเสือป่าในกรุงเทพฯ ได้ทวีจำนวนมากขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดแบ่งกำลังพลเสือป่าในกรมเสือป่าหลวงรักษาพระองค์ออกเป็น
กองพลเสือป่าที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2456 นั้น ในส่วนกลางประกอบด้วย กองพลหลวง (รักษาพระองค์) มีหน้าที่ "เป็นผู้รักษาพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เกี่ยวแก่การรักษาดินแดนมณฑลหรือภาคใดๆแห่งพระราชอาณาจักรโดยเฉพาะ" มีอัตรากำลังประกอบด้วย
กรมเสือป่าราบหลวง (รักษาพระองค์) มีกำลังพลในสังกัด ๒ กองพัน คืออนึ่งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2458 ได้โปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขระเบียบการปกครองเสือป่าในกองเสนาหลวงแลกองเสนารักษาดินแดนอีกครั้ง โดยให้เริ่มถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 เป็นดังนี้
กองเสนาหลวงรักษาพระองค์ ให้แบ่งการปกครองออกเปน 2 กองเสนาน้อย และมีกองที่เปนกำลังของกองเสนาหลวงอีกกอง 1 รวมเปน 3 กองด้วยกันดังนี้
กองเสนาน้อยราบเบา ให้มีกรมเสือป่ารวมอยู่ในความปกครอง คือกองพล (กองเสนารักษาดินแดน) | จังหวัด (มณฑล) | หน่วยในบังคับบัญชา |
---|---|---|
กองเสนาหลวงรักษาพระองค์ | - | กองเสนาน้อยราบเบา, กองเสนาน้อยราบหนัก และ กองกำลังเสนาหลวง |
กองเสนากลางรักษาดินแดนกรุงเทพฯ | กรุงเทพมหานคร | กรมเสือป่าราบที่ 1 กรมเสือป่าราบที่ 2 และ กรมเสือป่าราบที่ 3 รวม 3 กรม กรมละ 2 กองพัน กองพันละ 3 กองร้อย |
กองเสนารักษาดินแดนกรุงเก่า (กองพลบน) | พระนครศรีอยุธยา (มณฑลกรุงเก่า) | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลกรุงเก่า (อยุธยา) และมณฑลนครสวรรค์ |
กองเสนารักษาดินแดนฝ่ายเหนือ | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลพิษณุโลก และมณฑลเพชรบูรณ์ | |
กองเสนารักษาดินแดนปักษ์ใต้ | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลชุมพร มณฑลนครศรีธรรมราช และมณฑลปัตตานี | |
กองเสนาดินแดนตะวันออก | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลนครราชสีมา และมณฑลอุดร | |
กองเสนารักษาดินแดนตะวันตก | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลนครไชยศรี และมณฑลราชบุรี | |
กองเสนารักษาดินแดนอีสาณ | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลร้อยเอ็ด และมณฑลอุบล | |
กองเสนารักษาดินแดนพายัพ | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลพายัพ | |
กองเสนารักษาดินแดนอาคเนย์ | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลปราจิณบุรี และมณฑลจันทบุรี | |
กองเสนารักษาดินแดนภูเก็ต (กองพลหรดี) | กรมเสือป่ารักษาดินแดนมณฑลภูเก็ต |
นอกจากจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองเสือป่าฝ่ายเสนาเป็นกองกำลังอาสาสมัครป้องกันประเทศในฝ่ายบกจนได้ตั้งขึ้นเป็นปึกแผ่นขึ้นแล้ว ต่อมาใน พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง "กองเสือน้ำ" ขึ้นอีกเหล่าหนึ่ง
กองเสือน้ำที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นในกองเสนาเฉพาะแต่มณฑลที่มีทางน้ำไปมาติดต่อถึงกันได้สะดวก และในแต่ละกองเสนาให้มีกองเสือน้ำเพียง 1 กองร้อย โดยจัดแบ่งเป็น 3 หมวด คือ
หมวดที่ 1 เรือเร็ว ชนิดเรือกลไฟหรือยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งสำหรับใช้ในการเดินข่าวติดต่อหมวดที่ 2 เรือบรรทุก ชนิดเรือกลไฟหรือเรือยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งสำหรับใช้บรรทุกนักรบเนื่องในการทางและเดินทัพหมวดที่ 3 เรือบรรทุก ชนิดเรือใบหรือเรือฉลอมหรือเรือแจว ซึ่งสำหรับใช้บรรทุกอาวุธ กระสุนดินดำเครื่องเสบียงและสรรพภาระใช้ในการรบอนึ่งถ้าแห่งใดมีเรือไม่ครบทั้ง 3 ประเภท ก็จัดให้มีแต่ 1 หรือ 2 ประเภทตามที่มีเรืออยู่ และถ้ามีเรือประเภท 1 ประเภทใดมากอยู่จะจัดขึ้นเปน 2 หมวดหรือ 3 หมวด เพื่อสะดวกแก่การปกครองก็ได้"
กองเสือน้ำซึ่งต่อมาวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2460 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ "เปลี่ยนขนานนามกรมเสือน้ำใหม่ว่า "กรมราชนาวีเสือป่า" ส่วนอักษรย่อที่จะใช้แทนคำว่าราชนาวีเสือป่านั้น ให้ใช้อักษรย่อว่า "ร.น.ส." โดยคล้ายกับราชนาวีที่ใช้อักษรย่อว่า "ร.น." และในคราวเดียวกันนี้ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนขนานนามกรมกองเสือน้ำที่ได้ตั้งขึ้นแล้วเป็นดังนี้
อนึ่งในปลายปี พ.ศ. 2460 นั้นยังได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง "กองราชนาวีหลวงเสือป่าเดินทะเล" เป็นหน่วยขึ้นตรงกองพันหลวงราชานาวีเสือป่าอีกกองหนึ่ง
กองเสนารักษาดินแดนตะวันตก (กองเสนาน้อยราชบุรี)เมนูนำทาง
กองเสือป่า การจัดกำลังใกล้เคียง
กองเสือป่าแหล่งที่มา
WikiPedia: กองเสือป่า http://siamsilkroad.blogspot.com/2012/12/blog-post... http://lm-mag.com/?p=2123 http://lm-mag.com/?p=2126 http://journal.sirirajmuseum.com http://journal.sirirajmuseum.com/2016/05/02/%E0%B8... http://www.thaiheritage.net/king/rama6/rama6_defen... http://www.vajiravudh.ac.th/OVtoVC/C_61_80.htm http://www.vajiravudh.ac.th/OVtoVC/OVtoVC_40.htm http://www.vajiravudh.ac.th/OVtoVC/OVtoVC_80.htm#_... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/A/...