การกำจัดโรคโปลิโอเป็นความพยายามทาง
สาธารณสุขระดับนานาชาติที่มีจุดมุ่งหมายกำจัดทุกกรณีของการติดเชื้อจาก
โปลิโอไมเยลิทิส (โปลิโอ) ให้หมดไปทั่วโลกอย่างถาวร ความพยายามนี้เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2531 นำโดย
องค์การอนามัยโลก (WHO),
ยูนิเซฟ (UNICEF) และ
มูลนิธิโรตารี[1] องค์กรต่าง ๆ เหล่านี้ เช่นเดียวกับ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ และ
มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์เป็นหัวหอกสำคัญผ่านทางการทำงานของ
โครงการริเริ่มกำจัดโรคโปลิโอสากล (GPEI) การ
กำจัดโรคติดต่อนี้สำเร็จมาแล้วสองครั้งในอดีต ครั้งแรกคือกับการกำจัด
ไข้ทรพิษ[2] และกับ
โรครินเดอร์เปสต์[3]การป้องกันการแพร่กระจายของโรคสามารถกระทำได้ด้วยการให้วัคซีน ซึ่งมีอยู่
สองชนิดคือ วัคซีนโปลิโอทางปาก (OPV) ซึ่งให้
เชื่้อไวรัสโปลิโอที่อ่อนแอแล้ว กับวัคซีนโปลิโอ
ที่ยังไม่ถูกกระตุ้น (IPV) ซึ่งใช้การฉีดเข้าไป การให้วัคซีนด้วยวิธี OPV นั้นมีต้นทุนต่ำกว่าและสามารถทำได้โดยง่าย และสามารถนำไปสู่
ภูมิคุ้มกันสัมผัส (contact immunity) จึงเป็นวัคซีนชนิดที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุดโรคโปลิโอในปัจจุบันเกิดจากเชื้อโรคสองชนิดคือ ไวรัสโปลิโอชนิด '
ไวลด์' (WPV) และสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์จากชนิดวัคซีนให้ทางปาก เรียกว่า circulating vaccine-derived poliovirus (cVDPV) ในปี พ.ศ. 2562 มี 175 กรณีที่ตรวจพบว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อ WPV ทั่วโลก สูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 แต่ก็ถือว่าลดลง 700176000000000000076% จาก 719 กรณีที่ตรวจพบในปี พ.ศ. 2543 และลดลง 700199950000000000099.95% จากประมาณ 350,000 กรณีเมื่อเริ่มแรกโครงการกำจัดโปลิโอในปี พ.ศ. 2531 จากสามสายพันธุ์ของ WPV กรณีล่าสุดที่มีการบันทึกว่าเกิดจากเชื้อชนิด 2 (WPV2) เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2542 และ WPV2 ได้รับการประกาศว่าถูกกำจัดสำเร็จในปี พ.ศ. 2558 ส่วนชนิด 3 (WPV3) พบกรณีสุดท้ายที่เกิดโรคโปลิโอในปี พ.ศ. 2555 และได้รับการประกาศว่าถูกกำจัดเสร็จสิ้นแล้วในปี พ.ศ. 2562
[4] จนถึงปัจจุบัน ไวรัสชนิด 1 (WPV1) ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่ปรากฎอยู่ วัคซีนซึ่งรักษาทั้งสามสายพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้นได้นำไปสู่การเกิดขึ้นใหม่ของไวรัสชนิด cVDPV โดยมีสายพันธุ์สอง (cVDPV2) เป็นสายพันธุ์ที่พบได้มากที่สุด
ประเทศไนจีเรียเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้กำจัดการติดต่อของโปลิโอจากไวรัสโปลิโอชนิดไวลด์ในระดับโรคติดต่อได้สำเร็จ ด้วยกรณีผู้ป่วยล่าสุดพบในปี พ.ศ. 2559
[5] ไวรัสโปลิโอชนิดไวลด์ถูกกำจัดหมดสิ้นแล้วในทุกทวีป ยกเว้นเพียงเอเชีย ข้อมูลในปี พ.ศ. 2563 มีสองประเทศที่ไวรัสโปลิโอยังคงเป็นโรคระดับท้องถิ่น (endemic) คือ
ประเทศอัฟกานิสถาน และ
ประเทศปากีสถาน[6][7]ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 ไนจีเรียได้ถูกนำออกจากรายชื่อประเทศที่ยังคงมีการระบาดระดับท้องถิ่นของไวรัสโปลิโอชนิดไวลด์ (endemic wild poliovirus) ทำให้เหลือเพียงสองประเทศบนโลกเท่านั้นคืออัฟกานิสถานและปากีสถาน
[8] สองเดือนถัดมา
คณะกรรมการรับรองระดับภูมิภาคแอฟริกา องค์กรอิสระที่แต่งตั้งโดย
องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศให้ทวีปแอฟริกาปราศจากไวรัสโปลิโอชนิดไวลด์อย่างเป็นทางการ
[5]