การตายเฉพาะส่วน (
อังกฤษ: Necrosis; มาจากภาษา
กรีก: Νεκρός Nekros ตาย) เป็นการ
ตายของ
เซลล์และ
เนื้อเยื่อซึ่งจะมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องตามมาอย่างมาก ได้แก่การบวมของเซลล์, การย่อยสลาย
โครมาติน, และการเสื่อมสภาพของ
เยื่อหุ้มเซลล์และเยื่อหุ้ม
ออร์แกเนลล์ ในระยะต่อมาจะเกิดการย่อยสลาย
ดีเอ็นเอ, การเกิดช่องว่าง (vacuolation) ของ
เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม (endoplasmic reticulum) , การสลายของออร์แกเนลล์, และเกิดการสลายเซลล์ หลังจากเยื่อหุ้มเซลล์แตกสลายจะมีการปล่อยองค์ประกอบภายในเซลล์ซึ่งทำให้เกิด
การอักเสบ กระบวนการดังกล่าวแยกออกจาก
การเปลี่ยนแปลงหลังการตาย (Postmortem change) และจากการคงสภาพเนื้อเยื่อโดย
ฟอร์มาลิน[1]การตายของเซลล์แบบนี้แตกต่างจากการตายแบบ
อะพอพโทซิส (apoptosis) เพราะซากของเซลล์จะถูก
เซลล์กลืนกิน (phagocyte) ของ
ระบบภูมิคุ้มกันเข้ามากำจัดได้ยากเนื่องจากการตายเฉพาะส่วนไม่มี
การส่งสัญญาณของเซลล์ (cell signals) ซึ่งกระตุ้นให้เซลล์กลืนกินข้างเคียงเข้ามาจัดการซาก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถจะระบุตำแหน่งของการตายและไม่สามารถนำองค์ประกอบของเซลล์ที่ตายกลับมาใช้ใหม่ดังเช่นการตายแบบอะพอพโทซิส