การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งยุโรป หรือเรียกโดยทั่วไปว่า
การประกวดเพลงยูโรวิชัน (
อังกฤษ: Eurovision Song Contest;
ฝรั่งเศส: Concours Eurovision de la chanson) คือการประกวดเพลงประจำปี ในกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิก
สหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป (European Broadcasting Union: EBU) โดยประเทศที่ร่วมเข้าแข่งขันจะเลือก
เพลงและ
นักร้อง ประเทศละหนึ่งชุดโดยใช้ผู้แสดงไม่เกินหกคน ที่จะแสดงสดทางโทรทัศน์ โดยเพลงที่เข้าประกวดต้องเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ทั้งเนื้อร้องและทำนองคณะกรรมการคือประชาชนในประเทศสมาชิก EBU ซึ่งอาจรวมไปถึงประเทศ
อิสราเอล โมร็อกโกและ
ออสเตรเลีย แต่ไม่รวม
ลิกเตนสไตน์ โดยแต่ละประเทศจะใช้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นและการโหวตจากผู้ชมทางโทรศัพท์ ซึ่งแต่ละประเทศไม่มีสิทธิตัดสินหรือโหวตให้กับประเทศของตัวเอง ทุกประเทศจะได้มีคะแนนเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วยเหตุนั้นประเทศ
รัสเซียจึงมีคะแนนเท่ากับ
โมนาโก โดยประเทศที่ได้คะแนนมากที่สุดสองอันดับแรกจะได้คะแนน 12 และ 10 คะแนน ส่วนอันดับสามถึงสิบจะได้คะแนนตั้งแต่ 8 จนถึง 1 คะแนนมีผู้ชนะเพียงอันดับเดียว (ยกเว้นปี 1969 ที่มีผู้ชนะถึง 4 ประเทศ ได้แก่
สเปน สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ และ
ฝรั่งเศส) เท่านั้น (หากเกิดกรณีที่มีประเทศที่มีคะแนนสูงสุดเท่ากัน จะตัดสินที่จำนวนคะแนนที่ได้ เรียงจากคะแนนสูงสุดที่ได้รับไปยังคะแนนต่ำสุด หากยังเท่ากันอีก ประเทศที่มีลำดับการแสดงก่อนจะเป็นผู้ชนะ) ประเทศของผู้ชนะจะได้รับโล่หรือเหรียญรางวัล และเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดปีต่อไป โดยประเทศเจ้าภาพกับสี่ประเทศที่ออกค่าใช้จ่ายให้กับทาง EBU มากที่สุด ได้แก่
สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และ
สเปน จะสามารถส่งทีมเข้าประกวดในรอบชิงชนะเลิศได้โดยอัตโนมัติ (ภายหลังได้เพิ่ม
อิตาลีเข้าไปด้วย ส่วน
ออสเตรเลียได้รับสิทธิ์เข้ารอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติเป็นกรณีพิเศษในปี 2015 ในโอกาสครบรอบ 60 ปีการประกวด) ส่วนประเทศที่เหลือทั้งหมดต้องเข้าประกวดรอบคัดเลือก ซึ่งมีสองวันและคัดประเทศเข้ารอบชิงชนะเลิศวันละสิบประเทศ ทำให้รอบชิงชนะเลิศมีประเทศเข้าประกวดทั้งหมด 25 ประเทศการประกวดเริ่มมีการออกอากาศทุกปีตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1956 ถือเป็น
รายการโทรทัศน์ที่มีต่อเนื่องยาวที่สุดในโลก และมีผู้ชมที่ไม่ใช่การแข่งขันกีฬามากที่สุด
[1] โดยมีผู้ชมระหว่าง 100 ล้าน - 600 ล้านคน
[2][3] ออกอากาศทั่วทั้ง
ยุโรป และยังแพร่ภาพใน
ออสเตรเลีย แคนาดา อียิปต์ ฮ่องกง อินเดีย จอร์แดน เกาหลี นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และ
สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้ร่วมแข่งขันก็ตามตั้งแต่ปี 2000 การแข่งขันได้มีการแพร่ภาพทาง
อินเทอร์เน็ต[4] และในปี 2015 สหภาพฯ ได้เปิดช่องทางการถ่ายทอดสดผ่าน
ยูทูบ[5]ประเภทของเพลงในการแข่งขันมีความหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น อาหรับ,
ดนตรีเคลติก,
แดนซ์,
โฟล์ก, ละติน, นอร์ดิก, ป็อป-แร็ป,
ร็อก และอื่นๆศิลปินดังที่ชนะเลิศจากรายการนี้ เช่น
เซลีน ดิออน (
สวิสเซอร์แลนด์) ปี 1988,
แอ็บบ้า (
สวีเดน) ปี 1974,
ดานา อินเตอร์เนชันแนล (
อิสราเอล) ปี 1998,
ลอร์ดิ (
ฟินแลนด์) ปี 2006,
มาริยา เชริโฟวิช (Marija Šerifović) จากประเทศ
เซอร์เบีย ปี 2007,
ดิมา บิลาน (Dima Bilan) จาก
รัสเซีย ปี 2008 และ
อเล็กซานเดอร์ รืยบัค (Alexander Rybak) จาก
นอร์เวย์ ปี 2009 และ
เลนา เมเยอร์-ลันดรุท (Lena Meyer-Landrut) จากเยอรมนี ปี 2010และเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2005 ได้มีการ
จัดฉลองพิเศษครบรอบ 50 ปี ทาง
สหภาพการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งยุโรป ก็ได้คัดเลือกเพลงดังในแต่ละทศวรรษ มาจัดโชว์แข่งขันกัน โดยเพลงที่ชนะคือเพลง
Waterloo ขับร้องโดยวง
Abba ตัวแทนจากสวีเดนในปี
1974