การปิดอิตาลี_พ.ศ._2563
การปิดอิตาลี_พ.ศ._2563

การปิดอิตาลี_พ.ศ._2563

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563 รัฐบาลอิตาลีได้วางมาตรการกักด่านในแคว้นลอมบาร์เดียและอีกสิบสี่จังหวัดข้างเคียงในแคว้นปีเยมอนเต, เวเนโต, เอมีเลีย-โรมัญญา และมาร์เค เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการปิดพื้นที่เทศบาลสิบเอ็ดแห่งในจังหวัดโลดีซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ การปิดพื้นที่ที่กว้างขึ้นครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่าสิบหกล้านคนในพื้นที่ซึ่งถูกจำกัดการเข้าหรือออกไว้เฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น โดยมีข้อจำกัดเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงการทำกิจกรรมสาธารณะและการเดินทางภายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ[1]มาตรการนี้ได้รับการกล่าวว่าเป็นการปิดพื้นที่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป[2][3] และเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดที่ถูกนำมาใช้นอกจีน[4][5] กระทรวงมหาดไทยของอิตาลีประกาศว่าใครก็ตามที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่กักด่านอาจต้องโทษ "ปรับ 206 ยูโร" หรือ "จำคุกสามเดือน"[6]เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ประกาศขยายมาตรการกักด่านที่ใช้ในภาคเหนือไปทั่วประเทศ[7]

การปิดอิตาลี_พ.ศ._2563

วิธีการ ควบคุมการเข้าและออกจากพื้นที่ได้รับผลกระทบ, ห้ามทำกิจกรรมสาธารณะ
ผล ประชาชนประมาณ 60 ล้านคนถูกกักด่านในทุกจังหวัดของอิตาลี
สาเหตุ การระบาดของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563
เป้าหมาย ควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ในอิตาลี
สถานที่ อิตาลี

ใกล้เคียง

การปิดล้อม (ยุทธวิธีควบคุมฝูงชน) การปิดกั้นเบอร์ลิน การปิดการเข้าถึงวิกิพีเดียในประเทศตุรกี พ.ศ. 2560 การปิดบริการของรัฐบาลกลางแห่งสหรัฐ พ.ศ. 2556 การปิดล้อมไซ่ง่อน การปิดน่านฟ้าทั่วยุโรปจากการปะทุของเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ พ.ศ. 2553 การปิดประเทศอินเดียเนื่องด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19 การปิดเมืองอู่ฮั่นเนื่องด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19 การปิดสถานี การปิดอิตาลี พ.ศ. 2563

แหล่งที่มา

WikiPedia: การปิดอิตาลี_พ.ศ._2563 //www.worldcat.org/issn/0362-4331 https://www.cnn.com/2020/03/08/europe/italy-corona... https://www.cnn.com/2020/03/09/europe/coronavirus-... https://www.nytimes.com/2020/03/07/world/europe/co... https://www.nytimes.com/2020/03/08/world/europe/it... https://www.theverge.com/2020/3/7/21169637/italy-l... https://twitter.com/BNODesk/status/123712092501702... https://www.washingtonpost.com/world/europe/italy-...