ประวัติศาสตร์ ของ การผลิตข้าวในประเทศไทย

ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง

ก่อนหน้าคริสต์ทศวรรษ 1960 การผลิตข้าวในประเทศไทยประกอบด้วยชาวนาจำนวนมากที่ทำนาในพื้นที่ขนาดเล็กและผลิตข้าวในปริมาณที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงตัวเองเท่านั้น (การเกษตรเพื่อยังชีพ) สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นศูนย์กลางการผลิตข้าวในเวลานั้น[5] การเกษตรเป็นส่วนสำคัญของสินค้าทั้งหมดที่ผลิตในประเทศไทยและพลเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นชาวนา เหตุผลสำคัญที่พลเมืองไทยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรนั้นมีสองข้อ คือ ที่ดินกว้างใหญ่ไพศาลสามารถใช้ในการเกษตรได้และนโยบายเฉพาะของรัฐบาลที่จะถางพื้นที่ให้ได้มากขึ้นและปกป้องสิทธิชาวนา รัฐบาลจะช่วยให้ชาวนาได้มีที่ดินทำกินมากขึ้นและยังปกป้องจากเจ้าของที่ดินชนชั้นสูง[5] จากที่ท่าของรัฐบาลทำให้พ่อค้าไม่สามารถควบคุมอุตสาหกรรมข้าวในประเทศไทยได้มากนัก มีข้อกังวลว่ารัฐบาลปกป้องชาวนาปัจเจกชนไม่มากเท่ากับผลผลิตโดยรวม ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยค่อนข้างพึ่งพาตนเอง ต่อต้านสิ่งประดิษฐ์ของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลง และความเสมอภาค ชาวนาส่วนใหญ่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองและการแลกเปลี่ยนแรงงานระหว่างชาวนาถือเป็นเรื่องปกติ การผลิตข้าวโดยปกติแล้วจะไม่มากไปกว่าเท่าที่ชาวนานั้นต้องการบริโภคเพื่อมีชีวิตอยู่เท่านั้น[5]

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง

เมื่อยุโรปเริ่มต้นที่จะรวมตัวกันในหลายประเด็น รวมทั้งนโยบายการเกษตร (และการสนับสนุนราคา) ประเทศไทยจึงเริ่มที่จะปกป้องชาวนาข้าวน้อยลงและทำงานร่วมกับพ่อค้ามากขึ้น รัฐบาลเริ่มต้นกังวลเกี่ยวกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นและแสวงผลประโยชน์จากส่วนเกินที่เพิ่มมากขึ้นจากอุตสาหกรรมข้าว[5] ประเทศไทยหันไปยังพ่อค้าที่จะสร้างแรงกดดันนี้และให้ผลดีเยี่ยม[5]

ใกล้เคียง

การผลิตข้าวในประเทศไทย การผลิตไฮโดรเจน การผลิตภาพยนตร์ การผลิตยาปฏิชีวนะ การผลิตคู่ การผลิตดนตรี การผลิตใช้คอมพิวเตอร์ช่วย การผลิต การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562