การวิจัย ของ การรณรงค์งดสูบบุหรี่ในนาซีเยอรมนี

การวิจัยและการศึกษาถึงผลของบุหรี่ต่อสุขภาพของประชากรนั้นมีความเจริญก้าวหน้าในนาซีเยอรมนีมากกว่าชาติอื่นใดในโลก ในสมัยที่พรรคนาซีเรืองอำนาจ[1] การเชื่อมโยงระหว่างบุหรี่กับโรคมะเร็งปอด สามารถพิสูจน์ได้ครั้งแรกในนาซีเยอรมนี[17][25][26] ตรงกันข้ามกับนักวิทยาศาสตร์อเมริกันและอังกฤษที่ค้นพบเมื่อคริสต์ทศวรรษ 1950[17] แนวคิดการสูบบุหรี่มือสอง (เยอรมัน: Passivrauchen) ก็ได้มีการริเริ่มในนาซีเยอรมนีเช่นกัน[3] โครงการวิจัยหลายแห่งที่ได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุนจากรัฐบาลนาซีได้ค้นพบผลร้ายแรงที่มีต่อสุขภาพ[27] นาซีเยอรมนียังสนับสนุนให้มีการศึกษาทางด้านระบาดวิทยาถึงผลของการสูบบุหรี่[28] ฮิตเลอร์ยังได้ให้เงินสนับสนุนส่วนตัวให้แก่ สถาบันวิจัยภัยบุหรี่ (เยอรมัน: Wissenschaftliches Institut zur Erforschung der Tabakgefahren) ในมหาวิทยาลัยจีนา นำโดยคาร์ล อัสเทลอีกด้วย[13][29] ซึ่งสถาบันดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1941 และได้กลายเป็นสถาบันวิจัยต่อต้านบุหรี่ที่สำคัญที่สุดของนาซีเยอรมนี[29]

ฟรานซ์ ฮา. มึลเลอร์ และ เอ. ไชเรอร์ได้ใช้ทฤษฎีการควบคุมตัวแปรทางระบาดวิทยาเพื่อศึกษาถึงโรคมะเร็งปอดในหมู่ผู้สูบบุหรี่เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1939 และปี ค.ศ. 1943 ตามลำดับ[13] ในปี 1939 มึลเลอร์ได้ตีพิมพ์รายงานผลการศึกษาในวารสารด้านโรคมะเร็งในเยอรมนี ซึ่งกล่าวอ้างว่าการสูบบุหรี่จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด[2] มึลเลอร์ได้รับสมญานามว่า "บิดาแห่งวิชาระบาดวิทยาทดลองที่ถูกลืม"[30] ได้เข้าเป็นสมาชิกของคณะยานยนต์ชาติสังคมนิยมและพรรคนาซี การแสดงความคิดเห็นของมึลเลอร์ในปี 1939 นั้นเป็นการศึกษาด้านระบาดวิทยาภายใต้การควบคุมเป็นครั้งแรกของโลกในด้านความเชื่อมโยงระหว่างบุหรี่กับโรคมะเร็งปอด จากการศึกษาโรคมะเร็งปอดพบว่ายังมีอีกหลายสาเหตุที่นำไปสู่โรคมะเร็งปอด อย่างเช่น ฝุ่นละออง ไอเสียจากรถยนต์ วัณโรค รังสีเอกซ์ และของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม รายงานของมึลเลอร์ได้ชี้ว่า "การสูบบุหรี่ได้รับการผลักดันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นได้ทั่วไป"[31]

บรรดาแพทย์ในนาซีเยอรมนียังเห็นด้วยว่า ผลจากการสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ซึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นผลที่ร้ายแรงที่สุดของการสูบบุหรี่ บางครั้ง ได้มีการพิจารณาว่านิโคตินเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมากขึ้นในประเทศ ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง นักวิจัยได้พิจารณาว่านิโคตินเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจโคโรนารี ซึ่งทหารเยอรมันในแนวรบด้านตะวันออกเป็นโรคนี้กันมาก ผู้ชำนาญด้านอายุรเวชประจำกองทัพบกเยอรมันได้ทำการตรวจสอบทหารหนุ่มจำนวนสามสิบสองนายที่เสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โดยเอกสารศึกษาในปี ค.ศ. 1944 ได้ระบุว่าพวกเขาเป็นคนที่สูบบุหรี่จัด เขาได้อ้างอิงจากความคิดเห็นของผู้ชำนาญอายุรเวชฟรานซ์ บุชเนอร์ที่ว่าบุหรี่นั้นเป็น "พิษของโคโรนารีขั้นแรก"[19]

ใกล้เคียง

การรณรงค์งดสูบบุหรี่ในนาซีเยอรมนี การรณรงค์กำปั้นเหล็ก การรณรงค์ร้อยบุปผา การรณรงค์ การรณรงค์สามต่อต้านและห้าต่อต้าน การรณรงค์ทางทหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย การระบาดทั่วของโควิด-19 การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย

แหล่งที่มา

WikiPedia: การรณรงค์งดสูบบุหรี่ในนาซีเยอรมนี http://www.bmj.com/cgi/content/full/310/6976/396?i... http://www.bmj.com/cgi/content/full/313/7070/1450 http://www.bmj.com/cgi/content/full/329/7480/1424 http://www.ingentaconnect.com/content/iuatld/ijtld... http://www.nature.com/clpt/journal/v74/n6/abs/clpt... http://smm.sagepub.com/cgi/content/abstract/7/2/87 http://www.sciencedirect.com/science?_ob=ArticleUR... http://www3.interscience.wiley.com/journal/1201225... http://www.ecomed-medizin.de/sj/sfp/Pdf/aId/6824 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14663454