การลงคะแนน ของ การลงคะแนนแบบเสียงเดียวโอนไม่ได้

ในการเลือกตั้งแบบนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเพียงเสียงเดียวให้กับผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่มีหลายที่นั่ง โดยผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดตามลำดับเท่ากับจำนวนที่นั่งในเขตจะเป็นผู้ชนะ เช่น ในเขตเลือกตั้งที่มีสามที่นั่ง จะมีผู้สมัครสามคนได้รับคะแนนเสียงสูงสุดนั้นชนะการเลือกตั้ง การลงคะแนนระบบนี้สามารถใช้ได้กับผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด[1]

ตัวอย่าง

ในกรณีเขตเลือกตั้งที่มีสามที่นั่ง และมีผู้สมัครห้าคน จากสามพรรคการเมือง

คะแนนผู้สมัครพรรคการเมือง
819X
1,804Y
1,996Z
1,999Z
2,718Y

ในกรณีนี้ผู้สมัคร ค (พรรค Z) ง (พรรค Z) และ จ (พรรค Y) เป็นผู้มีคะแนนสูงสุดสามลำดับ แต่เมื่อทำการนับคะแนนเสียงเป็นรายพรรคการเมืองจะได้ผลลัพธ์ดังนี้

พรรคการเมืองคะแนน %ที่นั่ง (รวม 3)
Y4,52248%1
Z3,99543%2
X8199%0

จะเห็นได้ว่า พรรค Y มีคะแนนเสียงรวมมากกว่าพรรค Z แต่ได้ที่นั่งน้อยกว่าอันมีเหตุมาจากจำนวนคะแนนที่แบ่งกันในแต่ละผู้สมัคร หากพรรคการเมืองใดพยายามส่งผู้สมัครสามคนโดยหวังที่จะชนะทั้งสามที่นั่ง จะเป็นการทำให้คะแนนเสียงของผู้สนับสนุนพรรค Y และ Z นั้นแตกออกไปอีก (ภาวะเสียงแตก) ดังนั้นนาย ก จากพรรค X อาจจะชนะการเลือกตั้งแทนหนึ่งที่นั่งในขณะที่พรรค Y หรือ Z อาจจะมีที่นั่งน้อยลงหนึ่งที่นั่งแทนได้

ใกล้เคียง

การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย การลงจอด การลงคะแนนเสียงในสวิตเซอร์แลนด์ การลงทะเบียนผู้โดยสารสายการบิน การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2566 การลงประชามติว่าด้วยสมาชิกภาพสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 การลงคะแนนแบบคะแนนเสียงที่เหนือกว่า การลงคะแนนแบบจัดลำดับ การลงประชามติแยกซูดานใต้เป็นเอกราช พ.ศ. 2554 การลงประชามติประมวลกฎหมายครอบครัวคิวบา พ.ศ. 2565