อาร์เจนตินาเบลเยียมบราซิลแคนาดาเดนมาร์ก:
·
เดนมาร์ก (แผ่นดินใหญ่)·
กรีนแลนด์*
ฟินแลนด์ฝรั่งเศสไอซ์แลนด์ไอร์แลนด์ลักเซมเบิร์กเม็กซิโก:
·
ชีวาวา,
โกอาวีลา,
เม็กซิโกซิตี,
·
กินตานาโร เนเธอร์แลนด์:
·
เนเธอร์แลนด์ (แผ่นดินใหญ่)1
นิวซีแลนด์:
·
นิวซีแลนด์ (แผ่นดินใหญ่)นอร์เวย์โปรตุเกสแอฟริกาใต้สเปนสวีเดนไต้หวันสหราชอาณาจักร:
· อังกฤษและเวลส์
· สกอตแลนด์
·
หมู่เกาะพิตแคร์นสหรัฐอุรุกวัย อันดอร์ราออสเตรเลีย:
·
ACT,
NSW,
QLD,
·
SA,
TAS,
VICออสเตรียชิลี*
โคลอมเบียโครเอเชียสาธารณรัฐเช็กเดนมาร์ก:
·
กรีนแลนด์เอกวาดอร์เอสโตเนีย*
เยอรมนีฮังการีอิตาลี:
·
various jurisdictions ญี่ปุ่น:
· ชิบุยะ
ลิกเตนสไตน์มอลตาเม็กซิโก:
· CM, CL, JA
สโลวีเนียสวิตเซอร์แลนด์ไต้หวัน:
· เกาสฺยง
· ไทเป
United Kingdom:
· ไอร์แลนด์เหนือ
·
เกาะแมน·
เจอร์ซีย์·
ยิบรอลตาร์เวเนซุเอลา:
· เมรีดา *ยังไม่มีผลใช้บังคับ
การสมรสเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมายใน
ประเทศสเปนตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา โดยในปี ค.ศ. 2004 รัฐบาล
พรรคแรงงานสังคมนิยมสเปน นำโดย
นายกรัฐมนตรี นาย
โฆเซ ลุยส์ โรดริเกซ ซาปาเตโร ได้เริ่มการรณรงค์การรับรองสิทธิในการสมรสเพศเดียวกัน รวมถึงสิทธิในการรับบุตรบุญธรรมโดยคู่ครองเพศเดียวกัน
[1] ภายหลังจากการอภิปรายอย่างกว้างขวาง
รัฐสภาสเปนได้ผ่านร่างกฎหมายอนุญาตการสมรสเพศเดียวกันเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2005 และประกาศลงในรัฐกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2005 และมีผลใช้บังคับในวันถัดไป
[2] ทำให้สเปนกลายเป็นประเทศที่สามของโลกที่การสมรสเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมาย ภายหลังประเทศเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม และก่อนหน้าประเทศแคนาดา 17 วันแม้ว่าการรับรองกฎหมายฉบับนี้จะได้รับความสนับสนุนจากประชาชนกว่า 66% ก็ไม่ได้หมายความว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวจะปราศจากความขัดแย้งแต่อย่างใด
[3] บุคคลผู้มีตำแหน่งในศาสนจักรโรมันคาทอลิกได้คัดค้านอย่างแข็งขัน โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำให้ความหมายของการสมรสนั้นเสื่อมลง
[4] ส่วนกลุ่มอื่นๆ ก็ได้แสดงความห่วงใยต่อประเด็นเรื่องการรับบุตรบุญธรรมของคู่ครองเพศเดียวกัน
[5] การออกมาชุมนุมเพื่อสนับสนุนและคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ได้มีผู้เข้าร่วมเป็นหลักพันจากทั่วประเทศสเปน และภายหลังจากที่ได้มีการรับรองสิทธิดังกล่าวแล้ว
พรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมฝ่ายขวาของประเทศ ได้นำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญสเปนเพื่อวินิจฉัย
[6]ในปีแรกของการประกาศใช้กฎหมาย คู่ครองเพศเดียวกันกว่า 4,500 คนได้ทำการสมรสในประเทศสเปน
[7] ไม่นานหลังจากการใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว ประเด็นสถานะของการสมรสกับบุคคลต่างชาติ ซึ่งประเทศเจ้าของสัญชาติยังไม่รับรองการสมรสเพศเดียวกันก็ได้เป็นที่กล่าวถึง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวว่ากฎหมายรับรองการสมรสเพศเดียวกันของสเปนอนุญาตให้ชาวสเปนสามารถสมรสกับบุคคลต่างชาติ แม้ว่าประเทศเจ้าของสัญชาติจะไม่รับรองความเป็นคู่ครองทางกฎหมายก็ตาม
[8] อย่างไรก็ตาม คู่ครองหนึ่งคนนั้นจะต้องมีสัญชาติสเปนจึงจะสามารถสมรสได้ แต่บุคคลต่างชาติสองคนอาจสมรสกันได้หากทั้งคู่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศสเปนโดยชอบด้วยกฎหมายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 พรรคประชาชนได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย นาย
มาเรียโน ราฆอย หัวหน้าพรรคดังกล่าวได้คัดค้านการสมรสเพศเดียวกัน แต่การตัดสินใจว่าจะยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าวหรือไม่นั้นจะกระทำขึ้นได้ภายหลังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสเปน
[9][10][11] และเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ศาลรัฐธรรมนูญสเปนได้รับรองกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 3
[12][13][14] ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นาย
อัลเบร์โต รุยซ์-กัลยาร์ดอนได้ประกาศว่ารัฐบาลจะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยและจะไม่ยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าว