สถานีย่อยกิจการของอัครทูต (
อังกฤษ: Acts of the Apostles) เป็นเอกสารฉบับที่ 5 ของ
คัมภีร์ไบเบิล ภาค
พันธสัญญาใหม่ เรียกย่อว่า
กิจการ (Acts)ชื่อมาจาก
ภาษากรีก “Praxeis Apostolon” ใช้เป็นครั้งแรกโดย
นักบุญอิเรเนียส (Irenaeus) เมื่อ
คริสต์ศตวรรษที่ 2 อาจมีนัยความหมายว่า “กิจการของพระจิต” หรือเป็น “กิจการของ
พระเยซู” ก็เป็นได้ เพราะ
กิจการ เขียนขึ้นเพื่อบันทึกแนวทางปฏิบัติที่
พระเยซูทรงสอน และทรงมีบทบาทหลัก
[1]แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ได้บ่งบอกชื่อของตนเองไว้ แต่หลักฐานทั้งจากภายนอกและเนื้อหาในพระธรรมเอง เชื่อได้ว่าผู้เขียนน่าจะเป็น
ลูกาผู้ประกาศข่าวประเสริฐ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังสรุปยืนยันไม่ได้
[2] แต่มั่นใจว่าผู้ที่เขียนพระธรรม
กิจการ และ
พระวรสารนักบุญลูกา เป็นบุคคลเดียวกัน สังเกตได้จากบทเริ่มต้นของพระธรรมเล่มนี้ ซึ่งเป็นจดหมายเขียนถึงเธโอฟิลัส โดยอ้างถึงหนังสือเรื่องแรกที่ได้เขียนให้อ่านไปแล้วนั้น ตรงกันกับบทเริ่มต้นของ
พระวรสารนักบุญลูกา ดังนั้น พระธรรม
กิจการ จึงเขียนขึ้นทีหลัง ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 63 - 65ในพระธรรม
กิจการของอัครทูต นักบุญลูกาได้บันทึกประวัติศาสตร์การประกาศข่าวประเสริฐในช่วง 30 ปีแรก ซึ่งเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากที่
พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระธรรมเล่มนี้จึงเป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อระหว่าง
พระวรสารและ
จดหมายของนักบุญเปาโลและ
จดหมายอื่นได้เป็นอย่างดี เป็นพระธรรมที่มีความยาวมาก เกือบจะมากเท่ากับพระวรสารนักบุญลูกา ที่มีความยาวที่สุดในพระคัมภีร์
พันธสัญญาใหม่พระธรรม
กิจการของอัครทูต พอจะแบ่งออกเป็นตอนใหญ่ ๆ ได้ 2 ตอน คือ ตอนแรกเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มและปริมณฑล
[3] ซึ่งบุคคลสำคัญในตอนนี้ คือ
นักบุญเปโตร มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น นักบุญเปโตรปราศรัยใน
วันสมโภชพระจิตเจ้า[4] นักบุญเปโตรกล่าวกับชาวอิสราเอล ณ เฉลียงซาโลมอน
[5] อัครทูตถูกข่มเหง
[6] สเทเฟนเสียชีวิตเพราะยืนยันในความเชื่อ
[7] การกลับใจของ
นักบุญเปาโล[8] พวกชนต่างชาติได้รับพระวิญญาณ
[9] เป็นต้นตอนที่สองเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการประกาศข่าวประเสริฐออกไปนอกกรุงเยรูซาเล็ม
[10] ซึ่งบุคคลสำคัญในตอนนี้ คือ
นักบุญเปาโล เหตุการณ์ในตอนที่สองนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเดินทางไปประกาศข่าวประเสริฐในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปและเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากการเดินทางและการต่อต้านจากชาวยิวในหลาย ๆ เมือง ส่งผลให้นักบุญเปาโลถูกตามล่าเอาชีวิตและติดคุกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นโอกาสที่ทำให้นักบุญเปาโลได้แก้คดีต่อหน้าชาวยิวและชาวโรมันวัตถุประสงค์ในการเขียนพระธรรม
กิจการของอัครทูต มีอยู่ 4 ประการ คือ ประการแรก นักบุญลูกาต้องการเล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่
พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปของการประกาศข่าวประเสริฐประการที่สอง คือ นักบุญลูกาต้องการให้เธโอฟิลัส ซึ่งเป็นทั้งผู้อ่านจดหมายฉบับนี้และเป็นเจ้าหน้าที่โรมันทราบว่า คริสเตียนไม่ได้ทำอะไรผิด แม้ว่าจะมีปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่เชื่อ แต่คริสเตียนดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมาย ดังที่เฟสทัส ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองในขณะนั้น หลังจากฟังคำฟ้องของชาวยิวต่อ
นักบุญเปาโลแล้วกล่าวว่า "เมื่อพวกโจทก์ยืนขึ้น เขามิได้กล่าวหาจำเลยเหมือนที่ข้าพเจ้าคาดไว้นั้น เป็นแต่เพียงปัญหาเถียงกันด้วยเรื่องลัทธิศาสนาของเขาเอง และด้วยเรื่องคนหนึ่งที่ชื่อเยซูซึ่งตายแล้ว แต่เปาโลยืนยันว่ายังเป็นอยู่"
[11]ประการที่สาม คือ นักบุญลูกาต้องการให้ทราบว่า ผู้ประกาศข่าวประเสริฐทั้งสองคนของคริสตจักร คือ
นักบุญเปโตร และ
นักบุญเปาโล มีทัศนคติและแนวทางในการปฏิบัติงานรับใช้พระเจ้าอย่างไร อันเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้รับใช้รุ่นต่อ ๆ มาได้ประการสุดท้ายคือ นักบุญลูกาต้องการเขียนแผนผังแสดงการเดินทางเผยแพร่ข่าวประเสริฐ จากกรุงเยรูซาเล็มไปเอเซียไมเนอร์ ไปมาซิโดเนียและกรีก สุดท้ายจนถึงกรุง
โรม ระหว่างทางจะผ่านสถานที่ทางภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ซึ่งท่านได้บันทึกไว้หมด