กลุ่มผู้คัดค้านการกระทำของนิติราษฎร์ ของ คณะนิติราษฎร์

กลุ่มนักรบเมืองย่า ในวันที่ 22 มกราคม 2555 ที่บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนชาวโคราชในนาม “กลุ่มนักรบเมืองย่า” กว่า 50 คน นำโดย นายประทีป  ณ นคร รวมตัวกันชุมนุมแสดงพลังคัดค้านการเคลื่อนไหวผลักดันแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (ม.112) ของ “กลุ่มนิติราษฎร์” โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชูพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ธงชาติไทย, ธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติฯ และป้ายข้อความคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 เช่น “ใครหมิ่นสถาบันต้องประหารชีวิตอย่างเดียว”, “ม.112 ทำไมต้องแก้ มันผิดตรงไหน มึงถึงต้องแก้”, “นิติราษฎร์ คนคิดคต ทรยศต่อแผ่นดิน”เป็นต้น

ต่อมานายประทีป ณ นคร ประธานกลุ่มนักรบเมืองย่า แกนนำผู้ชุมนุมได้อ่านแถลงการณ์คัดค้านการแก้กฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีเนื้อหาระบุว่าสืบเนื่องจากกรณีคณะบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนิติราษฎร์” อันประกอบด้วยผู้มีความรู้ในระดับครูอาจารย์หลายคน เช่น ศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ได้ร่วมกันนำเสนอแนวคิดในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะ การยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยอ้างว่า เป็นต้นเหตุแห่งความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ความเป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้วนั้น

กลุ่มนักรบเมืองย่า ซึ่งเป็นกลุ่มพลังประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิทักษ์ปกป้องความถูกต้อง ความเป็นธรรมในสังคม และเหนืออื่นใดเพื่อการเทิดทูนและถวายความจงรักภักดี ตลอดจนการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มนักรบเมืองย่า ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการต่างๆ ของกลุ่มนิติราษฎร์ ดังกล่าว จึงขอประกาศโดยแถลงการณ์นี้ เพื่อคัดค้านและต่อต้านการกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ ดังจะกล่าวต่อไปนี้

ข้อ 1 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความปรากฏตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับที่ออกใช้บังคับมาโดยตลอด จึงต้องมีกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งแม้แต่ประเทศที่มิได้มีสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ก็ล้วนมีกฎหมายให้ความคุ้มครองประมุข หรือผู้นำของประเทศ เฉกเช่นเดียวกันกับกฎหมายมาตรา 112

ข้อ 2 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครอง และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีบทบัญญัติเพียงมิให้ พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มิให้ถูกล่วงละเมิด โดยเพียงแต่ห้ามมิให้ผู้ใด ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือการแสดงความอาฆาตมาดร้าย เท่านั้น  ซึ่งแม้แต่ในบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็ยังได้รับความคุ้มครองในลักษณะเช่นนี้ เหมือนกัน ประมุขของชาติ มีความสำคัญ เพราะเป็นหน้าตา ศักดิ์ศรี และเป็นเสาหลักของบ้านเมือง จึงควรได้รับการคุ้มครอง และพิทักษ์ปกป้อง เพื่อให้ทรงไว้ซึ่งพระเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของคนไทยทั้งชาติ กฎหมายดังกล่าว จึงมิใช่การแสดงความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นแต่อย่างใด

ข้อ 3 คุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย มีความยิ่งใหญ่ไพศาล และเป็นพระคุณอันประเสริฐสูงสุดของชาติไทยมายาวนานนับพันปี ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ชาติไทย อันเกี่ยวกับการรักษาแผ่นดิน การปกป้องเอกราชของชาติจากการรุกรานของอริราชศัตรู นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือแม้แต่องค์พระปิยะมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงพิทักษ์รักษาชาติไทยให้ยืนยงอยู่ได้มาจนทุกวันนี้ ทั้งนี้ด้วยพระบารมี และพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ในแต่ละยุคสมัยทั้งสิ้น แม้แต่ในรัชสมัยขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่าแม้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป แต่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พี่น้องปวงชนชาวไทยอย่างมากมาย และยิ่งใหญ่ไพศาล เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ยากจะหาผู้ใดมาเทียบเทียมได้  ถือเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่คนในชาติต้องสำนึก ต้องกตัญญู และเทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม

ข้อ 4 ด้วยเหตุปัจจัยทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้น สถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็น “ศูนย์รวมจิตใจ” ของคนไทยทั้งชาติ ยามใดที่ประเทศชาติ และประชาชนต้องประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ หรือภัยการเมือง คนไทยก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากองค์พระมหากษัตริย์ที่จะช่วยขจัดปัดเป่า ความทุกข์ยากเดือดร้อน จากภัยทั้งหลายทั้งปวงนั้น ให้บรรเทาเบาบางและหมดสิ้นลงได้

เรากลุ่ม “นักรบเมืองย่า” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลของสถาบันพระมหากษัตริย์ เราขอแสดงความสำนึก และขอเทิดสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม และพร้อมที่จะพิทักษ์ปกป้องไว้ด้วยชีวิต เราเห็นว่า การกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ นอกจากจะแสดงความไม่สำนึก ความไม่กตัญญูรู้คุณแล้ว ยังเป็นพฤติกรรมแห่งการเนรคุณแผ่นดินอย่างไม่สามารถให้อภัยให้ได้

เราขอให้กลุ่มนิติราษฎร์ ยุติบทบาทที่เป็นการแสดงความเนรคุณแผ่นดิน ดังกล่าวนั้นเสียโดยสิ้นเชิง มิฉะนั้น เราจะตอบโต้การกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์อย่างถึงที่สุด จึงขอประกาศแถลงการณ์ให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้โปรดรับทราบ และร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นปกป้องแผ่นดิน และสถาบันอันเป็นที่เคารพเทิดทูนของเราต่อไป

จากนั้นกลุ่มนักรบเมืองย่าได้ร่วมกันนำหุ่นฟางที่มีรูปภาพนายวรเจตน์ และนักวิชาการในกลุ่มนิติราษฎร์ มาวางก่อนใช้เท้าถีบกระทืบหุ่นฟางด้วยความโกรธแค้น และใช้มีดดาบที่เตรียมมาตัดหัวหุ่นประจาน ก่อนลงมือเผาหุ่นดังกล่าวด้วยท่ามกลางประชาชนที่มามุงดูเป็นจำนวนมากก่อนสลายการชุมนุมไป[13]

กลุ่ม"วารสารศาสตร์ต้านนิติราษฎร์". ศิษย์ปัจจุบันและคณาจารย์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประมาณ 100 คน ภายใต้ชื่อกลุ่มวารสารต้านนิติราษฎร์ ได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณลานปรีดี พนมยงค์ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เพื่อชุมนุมแสดงพลังคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์ ทั้งนี้ ทางกลุ่มวารสารฯ เข้าชื่อยื่นหนังสือถึงอธิการบดี ให้ตั้งกรรมการสอบความเหมาะสมของกลุ่มนิติราษฎร์โดยได้มีการเสนอข้อเรียกร้อง จำนวน 5 ข้อ ได้แก่

1.ให้ประชาคมธรรมศาสตร์รวมตัวกันคัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของคณะนิติราษฎร์ รวมถึงการใช้ชื่อมหาวิทยาลัย ไปสร้างความชอบธรรมให้กับการเคลื่อนไหวที่เป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

2.เรียกร้องให้อธิการบดี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคณาจารย์คณะนิติราษฎร์ ในการกระทำที่อาจจะมีความผิดทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย ให้เป็นที่กระจ่างแก่มหาชน พร้อมทั้งลงโทษตามมูลความผิด

3.เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันอย่างเป็นรูปธรรม

4.ให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการนำเสนอข่าวสาร อันเกี่ยวกับการแก้ไข ม.112

5. เรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าร่วมกันแสดงพลังคัดค้านการแก้ไขกฎหมาย ม.112 รวมทั้งต่อต้านแนวคิดใดๆ ที่ส่อและแสดงถึงการล่วงละเมิดและลบล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

นายยุทธนา มุกดาสนิท ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ในฐานะตัวแทนศิษย์เก่าคณะวารสารศาสตร์ฯ เปิดเผยว่า การออกมารวมตัวในครั้งนี้ เพื่อประกาศจุดยืน แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีกลุ่มธรรมศาสตร์อีกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งส่วนตัวก็มองว่า การที่กลุ่มนิติราษฎร์ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไข ม.112 เป็นการก้าวล่วงสถาบันมากเกินไป เกินขอบเขตของการแสดงความคิดเห็นในทางวิชาการ[14]

ใกล้เคียง

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น คณะนิติราษฎร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

แหล่งที่มา

WikiPedia: คณะนิติราษฎร์ http://www.enlightened-jurists.com/blog/56 http://www.enlightened-jurists.com/blog/61 http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E... http://www.koratforum.net/politics/1682.html http://www.ccaa112.org/Open-Letter.html http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B8%81%E0... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1... http://www.thairath.co.th/content/pol/112425 http://news.voicetv.co.th/thailand/26839.html https://www.thairath.co.th/content/235431