การค้นพบอีกครั้ง ของ คัตสึโดชาชิง

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2004 พ่อค้ามือสองในเกียวโตติดต่อนัตสึกิ มัตสึโมโตะ[lower-alpha 6][3] ผู้เชี่ยวชาญด้านประติมานวิทยาจากมหาวิทยาลัยศิลปะโอซากา[13] พ่อค้าได้รับชุดสะสมฟิล์มและเครื่องฉายจากครอบครัวเก่าแก่ในเกียวโต และมัตสึโมโตะมารับของสะสมเหล่านี้ในเดือนถัดไป[3] ชุดสะสมเหล่านี้ประกอบด้วยเครื่องฉาย 3 เครื่อง, ฟิล์ม 35 มม. 11 ชิ้น และสไลด์โคมไฟวิเศษ 11 ชิ้น[3]

เมื่อมัตสึโมโตะค้นพบ คัตสึโดชาชิง ในชุดสะสม[13] ฟิล์มสตริปอยู่ในสภาพที่แย่[14] ในชุดสะสมมีฟิล์มสตริปแอนิเมชันแบบตะวันตกสามชิ้น โดย คัตสึโดชาชิง อาจผลิตขึ้นด้วยการเลียนแบบจากตัวอย่างของแอนิเมชันเยอรมันหรือประเทศตะวันตกอื่น[15] หากพิจารณาจากหลักฐาน เช่น วันที่ผลิตที่เป็นไปได้ของเครื่องฉายในชุดสะสม มัตสึโมโตะและนักประวัติศาสตร์แอนิเมชันอย่างโนบูยูกิ สึงาตะ[lower-alpha 7] คาดว่าภาพยนตร์นี้น่าจะสร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเมจิซึ่งสิ้นสุดใน ค.ศ. 1912[lower-alpha 8][16] นักประวัติศาสตร์อย่างเฟรเดริก เอส. ลิตเติน เสนอแนะว่าน่าจะสร้างเมื่อประมาณ ค.ศ. 1907[2] และ "ปีที่สร้างไม่น่าก่อน ค.ศ. 1905 และไม่น่าหลัง ค.ศ. 1912"[9] ด้วยในช่วงเวลานั้นโรงภาพยนตร์หาได้ยากในประเทศญี่ปุ่น[5] หลักฐานจึงชี้ได้ว่ามีการผลิต คัตสึโดชาชิง ออกมาจำนวนมากเพื่อขายให้แก่คนร่ำรวยที่เป็นเจ้าของเครื่องฉายใช้ในบ้าน[17] ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชื่อผู้สร้าง[13] ในความเห็นของมัตสึโมโตะนั้น คุณภาพที่ค่อนข้างแย่และเทคนิคการพิมพ์ระดับต่ำบ่งชี้ว่า คัตสึโดชาชิง น่าจะมีที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก[9]

การค้นพบครั้งนี้ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในสื่อญี่ปุ่น[3] เมื่อพิจารณาปีที่สร้างตามที่ได้คาดกันไว้ ภาพยนตร์ชิ้นนี้อาจเกิดขึ้นร่วมสมัยหรืออาจเกิดขึ้นก่อนงานแอนิเมชันของโกลและนักแอนิเมชันชาวอเมริกันอย่างเจ. สจวร์ต แบล็กตัน และวินซอร์ แม็กเคย์ หนังสือพิมพ์ อาซาฮีชิมบุง ยอมรับในความสำคัญของการค้นพบแอนิเมชันสมัยเมจิ แต่ยังแสดงความกังขาต่อการจัดให้ภาพยนตร์ชิ้นนี้อยู่ในกลุ่มแอนิเมชันญี่ปุ่น โดยเขียนไว้ว่า "มีข้อถกเถียงว่า [คัตสึโดชาชิง] ควรจะถูกเรียกว่าแอนิเมชันในความเข้าใจร่วมสมัยหรือไม่"[14]

ใกล้เคียง