ค่ายมรณะแตรบลิงกา (
อังกฤษ: Treblinka extermination camp) เป็น
ค่ายมรณะ[lower-alpha 1] ที่สร้างขึ้นและดำเนินการโดย
นาซีเยอรมนีในเขตการยึดครองโปแลนด์ระหว่าง
สงครามโลกครั้งที่สอง[1] ตั้งอยู่ในป่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุง
วอร์ซอ ห่างจากสถานีรถไฟแตรบลิงกาไปทางทิศใต้เพียง 4 กิโลเมตร (2.5 ไมล์) ในเขต
จังหวัดมาซอฟแชปัจจุบัน ค่ายแห่งนี้ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 ถึง 19 ตุลาคม ค.ศ. 1943 ในฐานะส่วนหนึ่งของ
ปฏิบัติการไรน์ฮาร์ท ช่วงที่เลวร้ายที่สุดของ
การแก้ปัญหาสุดท้าย (Final Solution)
[2] คาดกันว่าในช่วงเวลานั้น ชาวยิวจำนวนประมาณ 700,000–900,000 คนถูกสังหารใน
ห้องรมแก๊ส[3][4] ร่วมกับ
ชาวโรมานีกว่า 2,000 คน
[5] มีชาวยิวถูกสังหารในแตรบลิงกามากกว่าในค่ายมรณะของนาซีอื่น ๆ นอกเหนือจาก
ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ค่ายแตรบลิงกาได้รับการบริหารจัดการโดย
หน่วยเอ็สเอ็สและ
ทหารตรัฟนีกี (Trawniki) (ถูกเกณฑ์ด้วยความสมัครใจจากหมู่เชลยศึกชาวโซเวียตเพื่อร่วมรบกับชาวเยอรมัน) ประกอบไปด้วยหน่วยสองหน่วยแยกจากกัน
[6] แตรบลิงกาที่ 1 เป็นค่ายบังคับแรงงาน (Arbeitslager) นักโทษในค่ายจะทำงานในเหมืองกรวดทรายหรือพื้นที่ชลประทาน และในป่าที่พวกเขาจะเข้าไปตัดไม้เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผาศพ
[7] ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1941–1944 จำนวนกว่าครึ่งของนักโทษ 20,000 คนได้เสียชีวิตจาก
การประหารชีวิตอย่างรวบรัด ความหิวโหย โรคภัย และการปฏิบัติที่ไม่ดี
[8][9]หน่วยที่สอง แตรบลิงกาที่ 2 เป็น
ค่ายมรณะ (Vernichtungslager) ซึ่งถูกนาซีเรียกอย่างสวยหรูว่า SS-Sonderkommando Treblinka ชายชาวยิวจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ถูกสังหารทันทีที่เดินทางมาถึงก็จะกลายเป็นหน่วยแรงงานทาสที่ถูกเรียกว่า
ซ็อนเดอร์ค็อมมันโด (Sonderkommando; "หน่วยพิเศษ")
[10] ซึ่งจะถูกบังคับให้ฝังศพเหยื่อไว้ในหลุมศพ ศพเหล่านี้ถูกขุดขึ้นในปี ค.ศ. 1943 และนำไปเผาในกองไฟกลางแจ้งขนาดใหญ่พร้อมกับศพเหยื่อรายใหม่
[11] ปฏิบัติการการรมแก๊สสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1943 หลังจาก ซ็อนเดอร์ค็อมมันโด ก่อการจลาจลในต้นเดือนสิงหาคม ทหารตรัฟนีกีหลายนายถูกสังหารและนักโทษ 200 คนได้หลบหนีออกจากค่าย;
[12][13] มีจำนวนเกือบร้อยคนที่รอดชีวิตจากการถูกไล่ล่า
[14][15] ค่ายแห่งนี้ได้ถูกรื้อถอนออกก่อนที่การรุกของกองทัพโซเวียตจะมาถึง โรงนาสำหรับยามเฝ้าสังเกตการณ์ได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่และพื้นดินได้ถูกไถ่ปราบให้เรียบเพื่อซ่อนหลักฐานของ
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์[16]ในโปแลนด์หลังสงคราม รัฐบาลได้กว้านซื้อที่ดินส่วนใหญ่ที่ค่ายนั้นเคยตั้งอยู่ และสร้างอนุสรณ์สถานศิลาขนาดใหญ่ ณ ที่แห่งนั้นระหว่าง ค.ศ. 1959–1962 ใน ค.ศ. 1964 แตรบลิงกาได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติของมรณสักขีชาวยิวในพิธีการที่จัดขึ้นบริเวณอดีตห้องรมแก๊ส
[17] ในปีเดียวกัน ได้มีการพิจารณาคดีเยอรมันครั้งที่หนึ่งว่าด้วยอาชญากรรมสงครามที่อดีตสมาชิกหน่วยเอ็สเอ็สก่อขึ้นที่แตรบลิงกา ภายหลังการสิ้นสุดของระบอบคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ใปี ค.ศ. 1989 จำนวนผู้เข้ามาเยี่ยมชมแตรบลิงกาจากต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ่น ศูนย์นิทรรศการที่ค่ายได้เปิดทำการใน ค.ศ. 2006 ต่อมาได้ขยายและกลายเป็นสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ภูมิภาค
แชดล์แซ (Siedlce)
[18][19]