ค่ายมรณะซอบีบูร์ (
อังกฤษ: Sobibór extermination camp) เป็นค่ายมรณะของ
นาซีเยอรมันที่ถูกก่อตั้งขึ้นและปฏิบัติการโดย
หน่วยเอ็สเอ็สในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สองใกล้กับสถานีรถไฟซอบีบูร์ใกล้กับเมือง
ววอดาวา (Włodawa) ภายในดินแดนกึ่งอาณานิคมของ
เขตปกครองสามัญใน
เขตการยึดครองโปแลนด์ค่ายแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
ปฏิบัติการไรน์ฮาร์ทที่ถูกปกปิดเป็นความลับ ซึ่งเป็นช่วงความร้ายกาจของ
ฮอโลคอสต์ในโปแลนด์ ชาวยิวจากโปแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เชโกสโลวาเกีย และ
สหภาพโซเวียต (รวมถึงเชลยศึกชาวยิว-โซเวียต)
[1][2][3] ได้ถูกโยกย้ายจากทางรถไฟ คนส่วนใหญ่สำลักควันใน
ห้องรมแก๊สที่ถูกพ่นจากท่อไอเสียของเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่
[4]มีผู้คนจำนวนอย่างน้อย 200,000 คนถูกสังหารในซอบีบูร์
[5] ที่
การพิจารณาคดีซอบีบูร์ ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีกับอดีตบุคลากรหน่วยเอ็สเอ็สของค่ายและจัดขึ้นใน
ฮาเกินหลังจากเข้าสู่ยุค
สงครามเย็นได้ประมาณสองทศวรรษ ศาสตราจารย์
ว็อล์ฟกัง เช็ฟเฟลอร์ ได้ประมาณจำนวนชาวยิวที่ถูกสังหารว่ามีอย่างน้อย 250,000 คน ในขณะที่ กาสไมส์เทอร์ (หัวหน้าแก๊ส)
เอริช เบาเออร์ ได้ประมาณว่ามี 350,000 คน
[6][7] จำนวนตัวเลขนี้จะทำให้ซอบีบูร์กลายเป็นค่ายมรณะที่ร้ายแรงที่สุดในลำดับที่สี่ รองลงมาจาก
แบวแชตส์ แตรบลิงกา และ
เอาช์วิทซ์นักโทษประมาณ 600 คนพยายามหนีออกจากค่ายระหว่างการก่อจลาจลในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1943 ประมาณครึ่งหนึ่งสามารถข้ามรั้วกั้นออกไปได้สำเร็จ ในจำนวนนี้มีราว 50 คนที่รอดพ้นจากการถูกจับกลับไปอีก รวมทั้ง
แซ็ลมา ไวน์แบร์ค และ
ไคม์ เอ็งเงิล สามีของเธอในอนาคต พวกเขาแต่งงานกันในเวลาต่อมาและมีชีวิตอยู่เป็นพยานต่อการก่ออาชญากรรมของนาซี ไม่นานหลังจากการก่อจลาจล เยอรมนีก็ปิดค่าย เกลี่ยพื้นดินให้เรียบ และปลูกต้นสนหลายต้นเพื่อปกปิดพื้นที่ตั้งของค่ายแห่งนี้ ทุกวันนี้สถานที่แห่งนั้นกลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ซอบีบูร์ซึ่งจัดแสดงพีระมิดที่เก็บขี้เถ้าและกระดูกที่ถูกบดขยี้ของเหยื่อซึ่งถูกเก็บรวบรวมจากเตาเผาศพในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ทีมนักโบราณคดีได้ขุดพบซากที่เหลือจากห้องรมแก๊สที่ถูกฝังอยู่ใต้ถนนยางมะตอย นอกจากนี้ในปีเดียวกันยังพบจี้ที่จารึกวลี "ดินแดนอิสราเอล" เป็นภาษาฮีบรู อังกฤษ และอาหรับ มีอายุย้อนไปได้ถึง ค.ศ. 1927; ต่างหู; แหวนแต่งงานที่มีคำจารึกภาษาฮีบรู และขวดน้ำหอมซึ่งเป็นของเหยื่อชาวยิว
[8][9]