ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดา หรือ
ค้างคาวดูดเลือดธรรมดา (
อังกฤษ: Common vampire bat, Vampire bat) เป็น
ค้างคาวขนาดเล็ก
ชนิดหนึ่ง มี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Desmodus rotundus (/เดส-โม-ดัส /โร-ทัน-ดัส/) จัดเป็นค้างคาวเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ใน
สกุล Desmodus
[2]เป็น
ค้างคาวแวมไพร์หรือค้างคาวดูดเลือด 1 ใน 3 ชนิดที่มีในโลก แต่ถือเป็นเพียงชนิดเดียวที่ดูด
เลือดของ
สัตว์อื่นที่มีขนาดใหญ่กว่ากินเป็นอาหารเท่านั้น จัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่กินเลือดเป็นอาหาร
[3] กระจายพันธุ์ใน
ป่าดิบตั้งแต่
อเมริกากลาง จนถึงทั่วไปในหลายพื้นที่ของ
ทวีปอเมริกาใต้ [4]ลักษณะทั่วไปของค้าวคาวแวมไพร์ธรรมดา คือ จะมีปากสั้นรูปกรวย ไม่มีปีกจมูกทำให้เผยเห็นโพรงจมูกเป็นรูปตัว
ยู และมีอวัยวะพิเศษ เรียกว่า "Thermoreceptors" ติดอยู่ที่ปลายจมูก สำหรับใช้ช่วยตรวจหาบริเวณที่มีเลือดไหลได้ดีใต้ผิวหนังของเหยื่อ อีกทั้งยังมีสายตาที่มองเห็นเป็นภาพ
อินฟาเรด จาก
อุณหภูมิความร้อนของตัวเหยื่อ และทำให้เห็นดีมากในเวลา
กลางคืน ซึ่งเป็นเวลาออกหากิน
[5]ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้
[6]มีนิ้วและข้อต่อที่แข็งแรง และคล่องแคล่วว่องไวมากเมื่อเทียบกับค้างคาวชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับพื้นที่ สามารถกระโดดหรือคลานไปมาเคลื่อนไหวได้เร็วมากผิดกับค้างคาวชนิดอื่น ๆ
[7]ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดา จะดูดเลือดจากสัตว์เลือดอุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งอาจใหญ่กว่าตัวค้างคาวได้ถึง 10,000 เท่าได้ โดยมากจะเป็น
สัตว์ป่าและ
สัตว์เลี้ยงที่เป็น
ปศุสัตว์ เช่น
หมู,
หมูป่า,
วัวและ
ควาย เป็นต้น รวมถึงอาจดูดเลือด
มนุษย์ได้ด้วย เมื่อจะดูดเลือด ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดาจะดูดเฉพาะเหยื่อที่
นอนหลับ ด้วยฟันที่แหลมคมคู่หน้าที่แหลมเหมือน
มีดโกน ประกอบกับเป็นเวลาที่เหยื่อนอนหลับอยู่ด้วย จึงมักไม่ทันระวังหรือรู้ตัว โดยค้างคาวจะร่อนลงและเดินด้วยเล็บเล็ก ๆ ที่ติดอยู่กับปีกทั้ง 4 ข้าง ไปดูดเลือด ซึ่งเลือดของเหยื่อจะไม่แข็งตัว เนื่องจากใน
น้ำลายของค้างคาว มีสารเคมีพิเศษที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว และขณะที่ดูดเลือด ค้างคาวจะถ่าย
ปัสสาวะไปด้วย เนื่องจากจะดูดเลือดในปริมาณที่มาก ทำให้ไม่สามารถบินได้ ซึ่งปริมาณเลือดที่ดูดไปนั้น หากคำนวณว่าดูดเลือดหมูทุกคืน ภายในเวลา 5
เดือน จะมีปริมาณเท่ากับน้ำหนัก 5
แกลลอน[5] อีกทั้งเลือดที่ไหลออกมานั้นจะไหลผ่านลิ้นของค้างคาวที่มีร่องพิเศษช่วยให้เลือดไหลผ่าน
หลอดเลือดฝอยได้โดยง่าย ซึ่งคุณสมบัติที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวของค้างคาวแวมไพร์ธรรมดานั้น เป็นที่สนใจของ
นักวิทยาศาสตร์ ที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง
พันธุกรรมเพื่อที่จะค้นหา
ยีนที่จะป้องกันภาวะ
หัวใจวาย[4]ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดาจะดูดกินเลือดมากถึงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวต่อวัน เนื่องจากกินแต่เลือดอย่างเดียว ซึ่งเลือดให้พลังงานไม่มากอีกทั้งยังไม่มีไขมัน หากไม่ทำเช่นนั้น ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดาจะตายภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน
[3]ในเวลา
กลางวัน ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดาจะหลับพักผ่อนบนเพดาน
ถ้ำ โดยอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ทั้งพ่อและแม่ค้างคาวจะช่วยกันเลี้ยงดูลูกน้อยที่ยังบินไม่ได้ เป็นระยะเวลานานถึง 9
เดือน อีกทั้งยังมีพฤติกรรมนำเลือดที่หามาได้ กลับมาฝากสมาชิกตัวอื่นในฝูงด้วย สำหรับสมาชิกตัวใดที่หากินได้พอ
[5]แต่ค้างคาวแวมไพร์ธรรมดา ก็ถือเป็นสัตว์อันตราย โดยเป็นพาหะนำ
โรคพิษสุนัขบ้าแพร่สู่มนุษย์ได้ ที่
ประเทศเปรูในปี
ค.ศ. 2010 มีผู้
เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย เป็น
เด็ก จากโรคนี้โดยมีพาหะจากค้างคาว
[8]