จอร์จ_เอส._แพตตัน
จอร์จ_เอส._แพตตัน

จอร์จ_เอส._แพตตัน

พลเอก จอร์จ สมิธ แพตตัน, จูเนียร์ (อังกฤษ: George Smith Patton, Jr.; 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1885 – 21 ธันวาคม ค.ศ. 1945) เป็นพลเอกแห่งกองทัพบกสหรัฐ ที่ได้บัญชาการในกองทัพสหรัฐที่ 7 ในเขตเมดิเตอร์เรเนียนในสงครามโลกครั้งที่สอง และกองทัพสหรัฐที่สามในฝรั่งเศสและเยอรมนี ภายหลังจากฝ่ายสัมพันธมิตรบุกครองนอร์ม็องดีในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944เกิดในปี ค.ศ. 1885 กับครอบครัวที่มีเบื้องหลังในวงการทหารที่กว้างขวาง เมื่อได้ก้าวข้ามทั้งกองทัพสหรัฐและกองทัพสมาพันธรัฐ แพตตันได้เข้าเรียนที่สถาบันการทหารเวอร์จิเนียและสถาบันการทหารสหรัฐที่เวสต์พอย เขาได้ศึกษาทางด้านกีฬาฟันดาบและได้ออกแบบกระบี่ทหารม้า, เอ็ม1913 ได้เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็น "กระบี่แพ็ตตัน" และมีความสามารถที่เพียงพอในการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่เพื่อเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1912 ในสต็อกโฮล์ม สวีเดนแพตตันได้แสดงให้เห็นในการรบครั้งแรกในช่วงการทัพปราบปานโช วีญ่า(Pancho Villa Expedition) ในปี ค.ศ. 1916 ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกในกองทัพสหรัฐซึ่งได้ใช้พาหนะยานยนต์ ได้เป็นส่วนหนึ่งในเหล่ารถถังสหรัฐแห่งกองกำลังอเมริกันรบนอกประเทศที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ เขาได้ปฏิบัติหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้คอยออกคำสั่งการที่โรงเรียนรถถังสหรัฐในฝรั่งเศสก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บในขณะที่ได้นำรถถังเข้าสู่สนามรบในช่วงที่สงครามใกล้จะยุติลง ในช่วงสมัยระหว่างสงคราม แพตตันยังคงเป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรการสงครามยานเกราะของกองทัพ ได้รับใช้ตำแหน่งพนักงานมากมายทั่วทั้งประเทศ ได้รับการเลื่อนยศตำแหน่ง, เขาได้บัญชาการในกองพลยานเกราะที่ 2 ในช่วงเวลาที่อเมริกาได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองแพตตันได้นำทหารสหรัฐเข้าสู่เขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการบุกครองกาซาบล็องกาในช่วงปฏิบัติการคบเพลิงในปี ค.ศ. 1942 และไม่นานได้ยอมรับตัวเองว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีประสิทธิภาพจากการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วของหน่วยทหารสหรัฐที่สองที่กำลังเสียขวัญ เขาได้บัญชาการในกองทัพที่เจ็ดในการบุกครองเกาะซิซิลี ที่เขาได้เป็นผู้บัญชาการฝ่ายสัมพันธมิตรคนแรกที่ได้ไปถึงเมสซีนา ที่นั่นเขาได้พัวพันในการโต้แย้งภายหลังจากที่เขาได้ตบหน้าทหารสองนายที่ตกอยู่ในอาการภาวะหวาดกลัวสงครามภายใต้บัญชาการของเขา และถูกปลดออกชั่วคราวจากการบัญชาการในสนามรบ ต่อมาเขาได้รับมอบหมายให้ได้มีบทบาทที่สำคัญในปฏิบัติการทรหด การล่อลวงทางทหารครั้งใหญ่ของฝ่ายสัมพันธมิตรสำหรับปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด ภายหลังการบุกครองนอร์ม็องดีในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 แพตตันได้รับมอบหมายให้บัญชาการกองทัพที่สาม ซึ่งได้ดำเนินการโจมตีด้วยยานเกราะอย่างรวดเร็วที่ประสบความสำเร็จสูงในการรุกก้าวข้ามฝรั่งเศส ภายใต้ความเป็นผู้นำที่เด็ดขาดในกองทัพที่สามได้นำในการบรรเทาแก่กองกำลังอเมริกันที่กำลังถูกโอบล้อมในบัสตอญในช่วงยุทธการตอกลิ่ม หลังจากนั้นกองกำลังของเขาได้รุกเข้าไปลึกถึงใจกลางของนาซีเยอรมนีในท้ายสงคราม ในช่วงที่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยึดครองเยอรมนี แพตตันได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้ว่าการทหารแห่งบาวาเรีย แต่ก็ต้องถูกปลดออกเพราะคำพูดที่ก้าวร้าวของเขาที่มีต่อสหภาพโซเวียตและทำให้การขจัดความเป็นนาซีกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย เขาได้บัญชาการในกองทัพสหรัฐที่สิบห้าเป็นนานกว่าสองเดือนเศษ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาได้เสียชีวิตในเยอรมนีใน 12 วันต่อมา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1945

จอร์จ_เอส._แพตตัน

การยุทธ สงครามปฏิวัติเม็กซิกัน
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่สอง
บำเหน็จ Distinguished Service Cross (2)
Distinguished Service Medal (3)
Silver Star (2)
Legion of Merit
Bronze Star
Purple Heart
Service summary of George S. Patton#Awards and decorations
ยศสูงสุด นายพล
เหล่าทัพ กองทัพบก
อนิจกรรมที่ ไฮเดลเบิร์กเยอรมนี
เกิดที่ ซานกาเบรียล แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
รับใช้ สหรัฐอเมริกา
ฉายา/ราชทินนาม "Old Blood and Guts"
บัญชาการ กองพลทหารม้าดาบ
กองทัพสหรัฐฯที่ 7
กองทัพสหรัฐที่ 3
กองทัพสหรัฐที่ 15
กองพลรถถังที่ 304
กองร้อยทหารม้าที่ 3
กรมทหารม้าที่ 5
กรมทหารม้าที่ 3
กองพลยานเกราะที่ 2
กองพลยานเกราะที่ 1
หน่วยฝึกทะเลทราย
กองพลที่สอง
ปีปฏิบัติงาน ค.ศ. 1909–1945