เชลยมองโกล ของ จักรพรรดิเจิ้งถ่ง

ครั้น ค.ศ. 1449 พระชนม์ได้ 21 ชันษา จู ฉีเจิ้น นำทัพหลวงออกรบกับชาวมองโกลซึ่งนำโดยราชครูเหย่เซียน (也先太師; Esen Taishi) จากเผ่าหว่าล่า (瓦剌; Oirat) ณ ปราการถู่มู่ (土木) เสด็จไปครั้งนั้นมีขันทีหวัง เจิ้น เป็นที่ปรึกษาประจำทัพ แต่เกิดโกลาหล ทัพหลวงแตกพ่าย หวัง เจิ้น ถูกฆ่าตาย และจู ฉีเจิ้น ถูกมองโกลจับเป็นเชลย เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ วิกฤติถู่มู่ (土木之變)

แม้จู ฉีเจิ้น จะอยู่แคว้นมองโกลในฐานะเชลย แต่ก็ได้เป็นมิตรสนิทสนมกับราชครูเหย่เซียน และข่านทัวทัวปู้ฮวา (脱脱不花)

อย่างไรก็ดี การที่พระมหากษัตริย์ถูกจับเป็นเชลย ทำให้เกิดภาวะไร้ผู้นำจนแผ่นดินจีนสั่นคลอน เพื่อระงับสถานการณ์ จู ฉี-อฺวี้ (朱祁鈺) พระอนุชา ประกาศถอดจู ฉีเจิ้น ออกจากราชสมบัติ และประทานสมัญญาพระเจ้าหลวง (太上皇) ให้ แล้วจู ฉี-อฺวี้ ขึ้นเสวยราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ ใช้พระนามว่า "จิ่งไท่" (景泰) แปลว่า "มองไกล" กับทั้งได้เสนาบดียฺหวี เชียน (于谦) ช่วยประคับประคองกิจการบ้านเมือง ราชวงศ์หมิงจึงดำเนินต่อไปด้วยดี

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิคังซี จักรพันธ์ แก้วพรม จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย