จักรพรรดิหมิงเจียจิ้ง (16 กันยายน ค.ศ. 1507 - 23 มกราคม ค.ศ. 1567) เป็นพระราชภาดา
[1] ใน
จักรพรรดิเจิ้งเต๋อเพราะพระบิดาของพระองค์กับ
จักรพรรดิหงจื้อที่ทรงเป็นพระราชบิดาของจักรพรรดิเจิ้งเต๋อเป็นพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมพระราชบิดาเดียวกัน เมื่อจักรพรรดิเจิ้งเต๋อสวรรคตลงในปี ค.ศ. 1521องค์ชายจูหูคง ชันษา 14 พรรษาจึงขึ้นครองราชย์เป็น
จักรพรรดิเจียจิ้งตลอดรัชกาลของพระองค์ เป็นยุคแห่งความเจริญด้านศิลปะและศาสนา ทรงเน้นเรื่องศิลปะโดยเฉพาะ
เครื่องลายคราม และเรื่องศาสนาโดยเฉพาะ
ลัทธิเต๋า โดยโปรดให้สร้าง
วิหารแห่งพระอาทิตย์ (日坛) ขึ้นทาง
ทิศตะวันออกของ
ปักกิ่ง วิหารแห่งพระจันทร์ (月坛) ขึ้นทาง
ทิศตะวันตก และ
วิหารแห่งโลก (地坛) ขึ้นทาง
ทิศเหนือ และโปรดให้ทำการต่อเติม
หอสักการะแผ่นดินและฟ้า (เทียนตี้ถัน) และให้เปลี่ยนชื่อเป็น "หอสักการะฟ้า" (เทียนถัน) แต่ทรงหลงงมงายอยู่กับพิธีกรรมและเรื่องราวทางไสยศาสตร์มาก จนในช่วงต้นรัชกาลพระองค์แทบไม่ทำอะไร นอกจากเฝ้าอยู่กับการสักการะดวงวิญญาณพระราชบิดา และพระราชมารดา จึงเปิดโอกาสให้พวกหมอผี นักหลอกลวงเข้ามาหาผลประโยชน์จนถึงเข้ามามีบทบาทในการบริหารบ้านเมือง
[2]ในรัชกาลของพระองค์ มีมหาเสนาบดีอยู่ 2 คน คือ
เหยียน ซง และ
เซี่ย หยุน ทั้ง 2 คนนี้แย่งชิงอำนาจกัน เป็นเซี่ย หยุน ที่ได้ครองอำนาจต่อจากเหยียน ซง ที่ทำบ้านเมืองตกต่ำ และพระองค์ไม่ทรงโปรด ต่อมาเกิด
แผ่นดินไหวครั้งที่รุนแรงที่สุดที่
มณฑลส่านซี ในปี ค.ศ. 1556 ตรงกับปีที่ 35 ในรัชกาล มีผู้เสียชีวิตกว่า 800,000 คน ทั้งยังเกิด
วาตภัยที่ปักกิ่ง และไฟไหม้ที่
พระราชวังต้องห้าม เป็นเหตุให้ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ พระองค์พิโรธถอดเซี่ย หยุน ออกจากตำแหน่ง และสั่งประหารชีวิต จึงเป็นเหยียน ชง ที่กลับมามีอำนาจอีกครั้ง
[2]จักรพรรดิเจียจิ้งสวรรคตในปี ค.ศ. 1567 ขณะพระชนม์ได้ 60 พรรษา ทรงครองราชย์นานถึง 45 ปี ยาวนานเป็นอันดับสองของราชวงศ์หมิง องค์ชายจูไฉ่หู พระราชโอรสจึงขึ้นครองราชย์เป็น
จักรพรรดิหลงชิ่ง