เมนูนำทาง
จักรพรรดิเหลียงอู่ พระเจ้าเหลียงอู่กับพุทธศาสนาพระเจ้าเหลียงอู่ทรงเป็นฮ่องเต้ที่มีศรัทธาปสาทะในพระบวรพุทธศาสนามากที่สุดองค์หนึ่งของจีน ทรงรับศีลฆราวาสตลอดพระชนม์ชีพ มีพระบรมราชโองการสั่งห้ามการทำปาณาติบาต เข่นฆ่าชีสิตสัตว์สังเวยบรรพชน แม้พระองค์เองก็ยังประกอบพระราชพิธีสังเวยบูรพชนด้วยอาหารมังสวิรัต และยกเว้นโทษประหารชีวิต จนได้รับการถวายพระนามเป็น "ฮ่องเต้โพธิสัตว์"
ทั้งยังมีพระสมัญญานามว่า "พระเจ้าอโศกแห่งแผ่นดินจีน" เนื่องจากทรงปวารณาพระองค์ตามจริยาของพระเจ้าอโสกมหาราช บำรุงพระศาสนา ประกาศพระสัทธรรม และถือศีลมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ พระองค์ทรงโปรดการปฏิบัติตามจริยาของพระเจ้าอโศก ที่ปรากฏใน อโศกาวทาน หรือ คัมภีร์อวทาน ถึงกับถวายนามให้แก่วัดแห่งหนึ่งในเมืองหนิงโป ว่า วัดพระเจ้าอโศก (วัดอายู่หวาง)
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับพระราชกิจในด้านศาสนาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การที่พระองค์ทรงผนวชเป็นพระภิกษุถึง 3 ครั้ง จนข้าราชสำนักต้องนำทรัพย์สินไปไถ่พระองค์ให้ลาผนวชมากมาย นัยว่าเป็นอุบายในการถวายพระราชทรัพย์แก่ศาสนจักร
พระองค์ยังทรงนิยมสนนทนาธรรม ศึกษาพระสูตร เล่ากันว่า ทรงพบกับพระโพธิธรรม (ตั๊กม๊อ) พระสังฆนายกองค์แรกแห่งนิกายฉาน (เซ็น) เมื่อท่านจาริกถึงเมืองจีนใหม่ๆ แต่ฮ่องเต้มิเข้าใจปริศนาธรรม จึงเมินเฉยพระเถระเจ้า กว่าจะทราบความสำคัญพระโพธิธรรมก็เดินทางไปวัดเส้าหลิน เพื่อประกาศธรรมนิกายฉานที่นั่น เรื่องราวตอนนี้ปรากฏใน สูตรของเว่ยหล่าง (六祖壇經) ของพระฮุ่ยเหนิง พระสังฆนายกองค์ที่ 6 แห่งนิกายฉาน ความว่า
วันหนึ่งเมื่อข้าหลวงอุ๋ยได้ถวายภัตตาหารเจแด่พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงแล้ว ข้าหลวงอุ๋ยได้กราบเรียนถามพระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงว่า
"หลักธรรมต่างๆ ที่พระคุณเจ้าแสดงไปแล้วนั้นเป็นหลักธรรมเดียวกันกับที่พระโพธิธรรมได้วางหลักธรรมสำคัญนี้ไว้มิใช่หรือ"
"ถูกแล้ว" พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงตอบ
"แต่กระผมได้สดับมาว่า เมื่อพระโพธิธรรมได้พบปะและสนทนากันเป็นครั้งแรกกับฮ่องเต้ เหลียงอู่ จึงถามพระโพธิธรรมว่าพระองค์จักได้รับกุศลอะไรบ้างจากการที่พระองค์ได้ก่อสร้างพระวิหารการอนุญาตให้คนบวช การโปรยทาน การถวายภัตตาหารเจแด่พระภิกษุสงฆ์ ในครั้งนั้นพระสังฆปริณายกโพธิธรรมถวายพระพรว่า
การกระทำเช่นนั้น ไม่เป็นทางนำมาซึ่งกุศลแต่อย่างใดเลย บรรดาข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่า เหตุไฉนพระโพธิธรรมจึงตอบดังนั้น"
พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงตอบว่า
"ถูกแล้วการกระทำเช่นนั้นไม่เป็นทางนำมาซึ่งกุศลแต่อย่างใดเลย ขออย่าได้มีความสงสัยในคำตอบนี้ของพระโพธิธรรมเลย พระเจ้าเหลียงอู่เองต่างหากที่มีความเข้าใจผิดและพระองค์ไม่ได้ททรงทราบถึงคำสอนอันถูกต้องตามแบบแผนการกระทำ เช่น การสร้างวิหาร การอนุญาตให้คนบวช การโปรยทาน การถวายภัตตาหารเจ จะนำมาให้ได้ก็แต่เพียงความปิติอิ่มใจต่างๆ เท่านั้น จึงไม่ถือว่าเป็นกุศล กุศลมีได้ก็แต่ในธรรมกายซึ่งไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับการทำเพื่อความปิติอิ่มใจเลย"
คำกล่าวของพระธรรมมาจารย์ฮุ่ยเหนิง ได้ยืนยันให้เห็นความจริงว่า คำกล่าวของพระโพธิธรรมเมื่อครั้งกระนั้นถูกต้องเพียงแต่มิได้อธิบายหรือมีโอกาสชี้แจงแสดงเหตุผลให้พระเจ้าเหลียงอู่สดับได้เพราะเพียงได้ยินคำกล่าว่า ไม่เป็นบุญกุศลโทสะจริตก็ครอบงำพระหฤทัยจึงขับไล่พระโพธิธรรมออกไปจากพระราชวัง
ดังนั้นถ้าพิจารณาประวัติความเป็นมาของพระเจ้าเหลียงอู่เต้ย่อมประจักษ์ถึงสัจธรรมแห่งการทำบุญว่ามิใช่หนทางแห่งการพ้นไปจากการเวียยนเกิด-ตาย เลย แต่กลับกลายเป็นการเวียนเกิดมารับผลบุญของตนเองไม่มีที่สิ้นสุด"
เมนูนำทาง
จักรพรรดิเหลียงอู่ พระเจ้าเหลียงอู่กับพุทธศาสนาใกล้เคียง
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิยงเจิ้ง จักรพรรดิคังซี จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวีแหล่งที่มา
WikiPedia: จักรพรรดิเหลียงอู่