พระโพธิธรรม (
สันสกฤต: โพธิธรฺม,
เทวนาครี बोधिधर्म;
อักษรโรมัน (NLAC) : bōdhidharma;
อักษรจีน: 菩提達摩,
พินอิน: Pútídámó , Dámó) แต่ใน
นิยายกำลังภายในในประเทศไทยมักเรียก
ตักม้อ หรือ
ตั๊กม้อ (สำเนียงแต้จิ๋ว ตรงกับจีนกลางว่า ต๋าหมอ) เป็นพระ
ภิกษุมหายานผู้ก่อตั้งนิกาย
ฉานขึ้นใน
ประเทศจีน มีประวัติไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่ามีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้สถาปนา
วัดเส้าหลิน ใน
จีน ทั้งยังได้เผยแพร่วิชามวยจีนในหมู่พระเณรของ
วัดเส้าหลิน จนมีชื่อเสียงมาจวบจนทุกวันนี้ตามตำนานระบุว่า ท่านเกิดเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของพระมหากษัตริย์
แคว้นคันธาระ ประเทศอินเดีย ใกล้เมืองมัทราสในปัจจุบัน มีนัยน์ตาสีฟ้า ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ก็ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภีร์ของทุก ๆ ศาสนา ตลอดจนวรรณคดี อักษรศาสตร์โบราณ นับเป็นปราชญ์เอกแห่งยุคเมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์สามารถนั่งสมาธิเข้าฌานสมาบัติชั้นสูง อยู่เบื้องพระบรมศพของพระบิดานานตลอดถึง 7 วัน หลังจากนั้น จึงไปศึกษาแสวงธรรมอยู่กับพระปรัชญาตาระเถระ ผู้เป็นพระสังฆปรินายกองค์ที่ 27 แห่งนิกายเซน (ซึ่งอ้างว่าสืบมาตั้งแต่
พระมหากัสสปะในสมัยพุทธกาล ถือเป็นพระ
ปฐมสังฆปริณายกของนิกายเซนในประเทศจีน) หลังจากนั้นท่านได้จาริกจากอินเดียไปเมืองจีน เมื่อราว ค.ศ. 526 ได้เดินทางไปยังเมือง
กวางตุ้งของจีน เข้าเฝ้า
จักรพรรดิเหลียงอู่ตี้ และไม่นานต่อมาได้ก่อตั้งอารามขึ้นในเมือง
ลั่วหยาง และใช้เวลาปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานถึง 9 ปีในการเพ่งผนังถ้ำ ฝ่ายมหายาน ถือว่าพระโพธิธรรมเป็น
สังฆปริณายกองค์ที่ 28 ที่สืบสายโดยตรงมาจาก
พระโคตมพุทธเจ้าผ่านทาง
พระมหากัสสปะ และยังเป็นผู้สถาปนานิกาย
เซนขึ้นมาในประเทศจีนอีกด้วย เนื่องจากคำสอนของท่านจะเน้นไปที่การเข้าฌาน แนวทางคำสอนของท่านจึงมักจะเรียกกันว่า
ฌาน (
สันสกฤต: [ธฺยาน] ध्यान : dhyan ) ใน
ภาษาจีนเรียกว่า 'ฉาน'(สำเนียงจีนกลาง ส่วนสำเนีงแต้จิ๋วเรียกว่า เซี้ยง) และ
ภาษาญี่ปุ่นว่า 'เซน'ประวัติชีวิตของท่านถือเป็นตำนาน ขาดหลักฐานที่แน่นอน เช่น ตำนานหนึ่งเล่าว่า ท่านได้ตัดหนังตาทิ้ง เนื่องจากโมโหที่เผลอหลับไปขณะทำสมาธิ เมื่อหนังตานั้นตกถึงพื้น ก็เติบโตกลายเป็นต้นชา และตำนานยังเล่าต่อว่า ด้วยเหตุดังกล่าวภิกษุนิกายเซนจึงนิยมดื่มน้ำชา เพราะจะได้ไม่ง่วงเวลาทำสมาธิพ.ศ. 1079 มีการสร้างสถูปอุทิศถวายท่านขึ้นในเมือง
เหอหนาน ภายหลังรัชสมัย
จักรพรรดิถังไท่จงตุ๊กตาล้มลุกของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า "ดะรุมะ" ก็เชื่อกันว่าสืบมาจากท่านตั๊กม้อนี้