เหตุการณ์ในช่วงพระชนม์ชีพ ของ จักรพรรดิโกะ-มูรากามิ

พระองค์มีพระชนม์ชีพอยู่ระหว่างช่วงที่มีการแย่งชิงอำนาจกันระว่างราชสำนักฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ช่วงเวลานี้รู้จักกันในชื่อยุคนันโบะกุ-โช เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิโกะไดโงะ ทรงเริ่มต้น การฟื้นอำนาจยุคเค็มมุ, แม้กระนั้นเจ้าชายที่ยังเด็ก,ตามด้วยคิทะบะทะเกะ อะกิอิเอะ, ในปี 1333 เสด็จไป ทะงะโจ ที่ในปัจจุบันคือ อำเภอมิยากิที่ในเวลานั้นเป็นส่วนหนึ่งของ จังหวัดมัตสุ เพื่อดึงเอาซามูไรทางตะวันออกมาเป็นพวก และทำลายตระกูลโฮโจที่เหลือ อย่างไรก็ตามในปี1335 เนื่องจาก อาซึคางะ ทากาอูจิ ก่อกบฏ จักรพรรดิจึงทรงกลับไปทางตะวันตกรวมทั้ง คิทะบะทะเกะ ชิกาฟุสะ ผู้เป็นบิดาของอกิอิเอะซึ่งรับพระราชโองการให้ไปปราบทากาอูจิ เมื่อทากาอูจิพ่ายแพ้แก่พวกเขาในเคียวโตะในปี1336 พวกเขาก็กลับไปจังหวัดมัตสุอีกครั้ง ในปี1337 เนื่องจาก ทะงะโจ ถูกโจมตี พวกเขาจึงกลับไปทางตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง โดยไปที่โยชิโนในขณะที่การรบในสมรภูมิยังไม่มีความเคลื่อนไหว

อีกครั้งในปี1338 พวกเขาบุกโจมตีทะงะโจ แต่ต้องถอยกลับโยชิโนเพราะเกิดพายุ ในปี 1339 พระองค์ก็ทรงได้รับตำแหน่งเจ้าชาย

วันที่ 18 กันยายน ปีเดียวกัน พระองค์ก็ทรงเป็นจักรพรรดิ ด้วยการสละราชสมบัติของ สมเด็จพระจักรพรรดิโกะไดโงะ

ในปี 1348 โค โนะ โมะโระนะโอะ โจมตีโยชิโน และองค์จักรพรรดิเสด็จหนีออกไปยังที่ซึ่งในปัจจุบันคือหมู่บ้านนิชิโยชิโน ใน ตำบลโยชิโน, อำเภอนาระ, ซึ่งตอนนั้นคือ จังหวัดยามะโตะ.

ในปี 1352 บุกโอะโตะโกะยามา ในจังหวัดยามาชิโร ในยุทธการซือชิโจ โอมิยะ คุสุโนะกิ มะสะโนะริยึดเคียวโตะคืนจาก อาซึคางะ โยชิอะกิระ ในเวลาดังกล่าว เหล่าจักรพรรดิที่อยู่อย่างโดเดี่ยวทางเหนือคือ สมเด็จพระจักรพรรดิโคงอน สมเด็จพระจักรพรรดิโคเมียว และ สมเด็จพระจักรพรรดิซุโก ต่างก็ถูกจับเข้าคุกที่โอะโตะโกะยามา อย่างไรก็ตาม เดือนต่อมา พวกเขาก็ทิ้งเมืองเคียวโตะหลังจากที่ถูกตีโต้โดยโชกุนอะซึคางะ

พวกเขาถูกกักขังไว้ที่โอะโตะโกะยามา แต่ก็หนีไปจังหวัดคาวาชิ ระหว่างการโจมตีของโยชิอะกิระ และในอีกไม่กี่ดือนต่อมาก็กลับสู่โยชิโน

ในเดือน12 วันที่8 ของปี 1361 โฮโซคะวะ คิโยจิ และ คุสุโนะกิ มะสะโนะริ ผู้กลับไปสวามิภักดิ์กับราชสำนักใต้ ตีเคียวโตะคืนได้เพียงชั่วคราว แต่โยชิอะกิระตอบโต้อย่างรวดเร็ว และทำให้พวกเขาต้องอพยพออกจากเคียวโตะในอีก18วันต่อมา

พวกเขายังพยายามยึดเคียวโตะคืนต่อไป แต่กำลังของราชสำนักใต้ก็อ่อนแอลงแล้ว และการที่จักรพรรดิสวรรคตในปี1368 อาซึคางะ โยชิมิตสุ ได้อำนาจ และราชบัลลังก์ถูกย้ายไปให้สุมิโยชิ

สุสานของพระองค์ที่รู้จักกันในชื่อ ฮิโนะโอะ โนะ มิซะซะกิ (檜尾陵) ตั้งอยู่ในเขตวัดคันชึนจิ (観心寺) ใน คาวาชินางะโนะ, โอซากา.[2]

คุเกียว

คุเกียว (公卿) เกี่ยวข้องกันกับพวกอำนาจน้อยจนถึงราชสำนักของจักรพรรดิญี่ปุ่นในช่วงก่อนยุคเมจิระหว่างที่มีความเสมอภาคกันระหว่างของอำนาจราชสำนักซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดนอกกำแพงวังกับพวกที่ยึดติดกับการปกครองแบบศักดินา

โดยปกติแล้วกลุ่มที่ได้รับการเลือกสรรประกอบด้วยคน3-4คนในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ส่วนมากเป็นข้าราชสำนักที่มาจากตระกูลใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังคงจะยกให้พวกเขาไปสู่จุดสุดยอดของชีวิตการทำงาน ในรัชกาลของพระองค์ ตำแหน่งสูงสุดของไดโจ-คัน ประกอบด้วย

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิยงเจิ้ง จักรพรรดิคังซี จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี