จักรพรรดิญี่ปุ่น (
ญี่ปุ่น: 日本天皇) ทรงเป็นผู้นำ
ราชวงศ์ญี่ปุ่นและ
ประมุขแห่งรัฐของ
ญี่ปุ่น รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1947 มาตรา 1 บัญญัติว่า "จักรพรรดิทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่นและสัญลักษณ์แห่งความสมัครสมานของชนชาวญี่ปุ่น ตำแหน่งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความยินยอมของชนชาวญี่ปุ่นผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย"
[1]ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่ประมุขแห่งรัฐเรียกว่า "
จักรพรรดิ" และราชวงศ์ญี่ปุ่นก็เป็นราชวงศ์เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
[2] ต้นกำเนิดในทางประวัติศาสตร์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นนั้นปรากฏในปลาย
ยุคโคฟุง (คริสต์ศตวรรษที่ 3–7) แต่เอกสารในทางประเพณีที่เรียกว่า
โคจิกิ (เขียนเสร็จใน ค.ศ. 712) และ
นิฮงโชกิ (เขียนเสร็จใน ค.ศ. 720) ระบุว่า
จักรพรรดิจิมมุทรงสถาปนาประเทศขึ้นเมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล และถือกันว่า ทรงสืบเชื้อสายโดยตรงมาจาก
อามาเตราซุ เทพธิดาแห่งดวงตะวัน
[3][4] จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบัน คือ
จักรพรรดินารูฮิโตะ ผู้เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 หนึ่งวันหลังจาก
จักรพรรดิอากิฮิโตะ พระบิดา ทรงสละราชบัลลังก์ในทางประวัติศาสตร์ บทบาทของจักรพรรดิญี่ปุ่นสลับไปมาระหว่างหน้าที่เชิงพิธีการกับหน้าที่ของผู้ปกครองอย่างแท้จริง เพราะนับแต่เกิด
ระบอบโชกุนเมื่อ ค.ศ. 1199 เป็นต้นมา โชกุน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิ และบางสมัย เช่น
ยุคคามากูระ (ค.ศ. 1203–1333) ก็มี
ชิกเก็งมาใช้อำนาจแทนโชกุนอีกทอดหนึ่ง ทำให้โชกุนและชิกเก็งเป็นผู้ปกครองประเทศโดยพฤตินัย แม้ว่าโดยนิตินัยแล้วจะได้รับแต่งตั้งจากจักรพรรดิอีกที กระทั่งมี
การปฏิรูปเมจิเมื่อ ค.ศ. 1867 โชกุน
โทกูงาวะ โยชิโนบุ ถวายอำนาจคืน
จักรพรรดิเมจิ ทำให้พระองค์ทรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยโดยบริบูรณ์ตามที่ระบุไว้ใน
รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1889 แต่เมื่อมีการตรารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ ฉบับ ค.ศ. 1947 ก็กำหนดให้จักรพรรดิกลับไปเป็นประมุขแต่ในทางพิธีการดังเดิม ไม่มีแม้กระทั่งอำนาจการเมืองในทางนิตินัยจักรพรรดิประทับ ณ
เคียวโตะ เมืองหลวงเดิม มาเกือบ 11 ศตวรรษ จนกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงแปรพระราชฐานมายัง
พระราชวังหลวงใน
โตเกียว เมืองหลวงใหม่ นอกจากนี้
วันพระราชสมภพของจักรพรรดิ (พระองค์ปัจจุบัน คือ 23 กุมภาพันธ์) ยังเป็นวันหยุดราชการ