ทรัพย์สิน ของ จักรพรรดิญี่ปุ่น

เดิมเชื่อกันจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองว่า จักรพรรดิญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก[13] กฎหมายพระราชทรัพย์ (Imperial Property Law) ที่มีผลใช้บังคับในเดือนมกราคม ค.ศ. 1911 แยกพระราชทรัพย์ของจักรพรรดิออกเป็นสองประเภท คือ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (crown estate) กับทรัพย์สินส่วนพระองค์ (personal property) และให้เสนาบดีกระทรวงวัง (Imperial Household Minister) รับผิดชอบคดีความเกี่ยวกับพระราชทรัพย์ กฎหมายดังกล่าวยังให้เก็บภาษีจากพระราชทรัพย์ได้ตราบที่ไม่มีบทบัญญัติว่าไว้เป็นอื่น และให้นำทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ออกใช้เพื่อกิจการสาธารณะหรือกิจการที่ได้รับพระราชานุญาตได้ ส่วนพระราชทรัพย์ของพระราชวงศ์ เช่น จักรพรรดินีม่าย, จักรพรรดินี, มกุฏราชกุมาร, มกุฏราชกุมารี, ราชนัดดา, และคู่ครองของราชนัดดา ได้รับการยกเว้นภาษี[14] ดังนั้น เมื่อประสบปัญหาทางการเงินใน ค.ศ. 1921 ราชวงศ์จึงขายที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ 289,259.25 เอเคอร์ (ร้อยละ 26 ของทั้งหมด) ไปให้เอกชน หรือโอนให้รัฐบาล ต่อมาใน ค.ศ. 1930 ยังบริจาคปราสาทนาโงยะให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมขายและบริจาคพระตำหนักอีกหกหลังออกไปจากความครอบครองของราชวงศ์[14] ครั้น ค.ศ. 1939 มีการบริจาคปราสาทนิโจ ที่พำนักเก่าของโชกุนตระกูลโทกูงาวะในเคียวโตะ ให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเช่นกัน

ปลาย ค.ศ. 1935 รัฐบาลคำนวณว่า ที่ดินในกรรมสิทธิ์ของราชสำนักถือมีราว 3,111,965 เอเคอร์ โดย 2,599,548 เอเคอร์เป็นที่ดินส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ และราว 512,161 เอเคอร์เป็นที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ดินทำนองนี้ประกอบด้วย หมู่พระราชวัง, ป่า, ไร่, และสถานที่ใช้ประทับหรือใช้เพื่อการพาณิชย์ จึงประเมินมูลค่าพระราชทรัพย์ประเภทที่ดินทั้งหมดไว้ที่ 650 ล้านเยน (195 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[14][15] ส่วนทรัพย์สินส่วนพระองค์ในรูปมรดก, เครื่องเรือน, ปศุสัตว์สายพันธุ์แท้, และการลงทุนในหน่วยงานใหญ่ เช่น ธนาคารแห่งญี่ปุ่น, บรรษัทโรงแรมหลวง, และบรรษัทนิปปงยูเซ็ง มีมูลค่ารวมหลายร้อยล้านเยน[14]

เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง เกิดการปฏิรูปรัฐธรรมนูญซึ่งบีบให้ราชวงศ์ขายสินทรัพย์ให้แก่เอกชนหรือรัฐบาล เจ้าหน้าที่ในราชสำนักก็ตัดจำนวนลงจากราว 6,000 คนเป็นประมาณ 1,000 คน ส่วนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งประเมินไว้ที่ 17.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็โอนไปยังเอกชนหรือรัฐฐาล เหลือไว้แต่ที่ดินเพียง 6,810 เอเคอร์ ส่วนค่าใช้จ่ายของราชวงศ์นั้น รัฐบาลจะอนุมัติงบสนับสนุนเป็นรายปี[16]

ใน ค.ศ. 2017 มีการประเมินว่า จักรพรรดิอากิฮิโตะมีพระราชทรัพย์เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[17] แต่มูลค่าที่แท้จริงของพระราชทรัพย์และค่าใช้จ่ายของจักรพรรดิและราชวงศ์นั้นไม่ทราบแน่ชัด เพราะปกปิดจากสาธารณะมาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 หลังเกิดกรณีที่นักข่าวของ ไมนิจิชิมบุง นาม โมริ โยเฮ (Mori Yohei) ไปได้เอกสารราชการ 200 ฉบับ แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเปิดเผยรายละเอียดของเงินปีที่รัฐบาลอนุมัติให้ราชวงศ์ โดยระบุว่า เงินปีสำหรับ ค.ศ. 2003 อยู่ที่ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[18] ทั้งยังเปิดเผยว่า ราชวงศ์จ้างคนมาใช้งานเป็นเจ้าหน้าที่มากกว่า 1,000 คน นอกเหนือไปจากข้อมูลอื่น ๆ[19]

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิคังซี จักรพันธ์ แก้วพรม จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีโคไลที่ 2 แห่งรัสเซีย จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย

แหล่งที่มา

WikiPedia: จักรพรรดิญี่ปุ่น http://www.ibtimes.com/akihito-net-worth-2017-how-... http://www.japaneselawtranslation.go.jp/law/detail... http://www.kunaicho.go.jp/eindex.html https://books.google.com/books?id=K1MuAAAAYAAJ&pg=... https://www.poundsterlinglive.com/bank-of-england-... https://www.youtube.com/watch?v=bVYP66nRSO8 https://www.youtube.com/watch?v=fAY-7gl21i0 https://www.youtube.com/watch?v=gBcygK0uQ7E https://www.youtube.com/watch?v=hEkWcXFZz2c https://www.ancient.eu/Amaterasu/