จามปา (
อักษรโรมัน: Champa;
เวียดนาม: Chăm Pa) เป็นกลุ่มรัฐอิสระของ
ชาวจาม (Cham) ที่ตั้งอยู่ทั่วชายฝั่งซึ่งปัจจุบันคือภาคกลางและภาคใต้ของ
เวียดนาม ดำรงอยู่ตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 2 จนถูก
จักรพรรดิมิญ หมั่ง (Minh Mạng) ผนวกเข้ากับเวียดนามเมื่อ ค.ศ. 1832
[1]ในภูมิภาคนี้ รัฐ
หลินอี้ (
จีน: 林邑;
เวียดนาม: Lâm Ấp) ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 192 ดำรงอยู่มาก่อนรัฐจามปา แต่ความเกี่ยวเนื่องระหว่างหลินอี้กับจามปานั้นยังไม่อาจระบุให้ชัดแจ้งได้ รัฐจามปารุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 และ 10 แต่หลังจากนั้นก็เริ่มตกต่ำเพราะถูกกดดันจากรัฐ
ด่ายเหวียต (Đại Việt) ที่ตั้งอยู่ ณ ดินแดนซึ่งปัจจุบันคือ
ห่าโหน่ย (Hà Nội) ครั้น ค.ศ. 1832 จักรพรรดิมิญ หมั่ง ผนวกแว่นแคว้นต่าง ๆ ของรัฐจามปาเข้ากับเวียดนามเป็นผลสำเร็จ เป็นอันสิ้นสุดรัฐจามปาชาวจามที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเวียดนามและกัมพูชาคือผู้คนที่ตกค้างจากรัฐจามปาโบราณนี้ ชาวจามใช้
ภาษาจาม (Chamic) ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของ
ภาษามาลาโย-โพลีเนเซีย (Malayo-Polynesian) ที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับ
ภาษามาเลย์อิก (Malayic) และ
ภาษา Bali–Sasak–Sumbawaในคริสต์ศตวรรษที่ 4 รัฐจามปารับ
ศาสนาฮินดูเข้ามาจาก
ฟูนาน (Funan) รัฐเพื่อนบ้านที่ขัดแย้งกันจนถูกจามปาพิชิตได้ในที่สุด ศาสนาฮินดูช่วยหล่อหลอมศิลปะและวัฒนธรรมของจามปาตลอดมาหลายร้อยปี ดังปรากฏในศาสนวัตถุและศาสนสถานทั่วพื้นที่จามปา ทุกวันนี้ ชาวจามปาส่วนใหญ่นับถือ
ศาสนาอิสลามซึ่งเปลี่ยนมาเข้ารีตกันตั้งแต่คริสต์ศตวรรษ 10 และเป็นที่ยอมรับของราชวงศ์อย่างเต็มที่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่ผู้ถือศาสนาฮินดูก็ยังมีอยู่ และยังมีพิธีกรรมและเทศกาลต่อไปตามประเพณี ชาวฮินดูกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในฮินดูนอกอินเดียสองกลุ่มดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่ในโลก โดยมีวัฒนธรรมย้อนหลังไปได้หลายพันปี ฮินดูอีกกลุ่ม คือ
ฮินดูบาหลี (Balinese Hinduism) ใน
อินโดนีเซีย[1]ดินแดนหลายแห่งซึ่งเคยเป็นของจามปา เช่น
หมีเซิน (Mỹ Sơn) ศูนย์กลางทางศาสนา และ
โห่ยอาน (Hội An) เมืองท่า ได้รับการประกาศให้เป็น
แหล่งมรดกโลก