ลักษณะผลงาน ของ จาโกโม_บัลลา

ช่วงก่อนฟิวเจอริสม์

ผลงานของบัลลาในช่วงแรกได้รับอิทธิพลจากศิลปะหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Impressionism,Pointillism และRealism รวมทั้งการจัดองค์ประกอบภาพที่มีลักษณะคล้ายภาพถ่าย ซึ่งปรากฏในช่วงแรกของการทำงานศิลปะราว ค.ศ.1900-1908

ผลงาน Pointillism จากศิลปินชาวอิตาลีที่เขานับถือ Giovanni Segantini มีอิทธิพลต่องานของบัลลา และจากการชักชวนของ Giuseppe Pellizza da Volpedo(ค.ศ.1868-1907) ที่บัลลาได้รู้จักในภายหลังเมื่อมายังกรุงโรม ได้ชักนำให้เขาเริ่มวาดภาพ "A Worker's Day" ในปี 1904 ซึ่งได้รับอิทธิพลด้านอื่นๆจากการที่เขาได้ไปปารีสในปี 1900 ผลกระทบสำคัญที่ตามมาจากการไปปารีสอาจเป็นการกระตุ้นความสนใจใน Impressionism

การเรียงลำดับตามเหตุการณ์ของผลงานทางศิลปะทั้งหมดของบัลลา แสดงให้เห็นปัญหาบางอย่าง เพราะดูเหมือนว่าเขาได้ลงวันที่ในผลงานส่วนใหญ่ไว้ภายหลังช่วงชีวิตของเขาอย่างมาก และมักจะเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง มีแนวทางที่เชื่อถือได้เพื่อระบุวันเวลาที่ใกล้เคียงเพียงอย่างเดียว คือ บัญชีรายชื่อและบทวิจารณ์งานแสดงศิลปะที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วม ภายหลัง ค.ศ.1900

ภาพ "Bankrupt" โดยประมาณ ค.ศ.1902 :ซึ่งให้อารมณ์แบบ realism ระยะในการวาดภาพถือเป็นแรงจูงใจอย่างมากที่สุด แสดงจากการวาดภาพระยะใกล้อย่างกะทันหันของย่านสลัมแห่งหนึ่ง ที่เป็นพื้นที่เล็กๆซึ่งปิดกั้นด้วยประตูและผนัง และประกอบด้วยพื้นผิวสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพียงหนึ่งเดียวอย่างหลากหลาย

ฉากยามค่ำคืนที่น่าประทับใจชื่อว่า "Work" ที่อยู่ในปีเดียวกันนั้น ยังคงความเป็นระเบียบและมีกฎของสถาปัตยกรรมมากกว่าในการจัดวางองค์ประกอบรวม ความเข้มสีที่เต็มไปด้วยสีที่ส่องแสงเรืองรองทำให้นึกถึงฟินเซนต์ ฟัน โคค และยังทำให้มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก รูปแบบเรขาคณิตก็ชวนให้เห็นมุมมองที่หลากหลายของลักษณะภายนอก ซึ่งเป็นตัวกำหนดให้เกิดการดำรงอยู่ ถึงสิ่งก่อสร้างในเมือง และจังหวะของชีวิตการทำงาน Work จัดเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นแรกๆของภาพชุดฉากยามค่ำคืนซึ่งบรรลุถึงขั้นเป็นผลงานชิ้นเอกอันยอดเยี่ยมของ ค.ศ.1914 อีกทั้งบัลลายังมีความสนใจในเพลงโรแมนติกที่แต่งเพื่อใช้กับเปียโนซึ่งอาจเกิดจากการทดลองของพ่อของเขาในการใช้เทคนิคถ่ายภาพกลางคืน

อิทธิพลของการถ่ายภาพยนตร์มีมากกว่าการถ่ายภาพธรรมดาอย่างชัดแจ้งใน "A Worker's Day" ในช่วงประมาณค.ศ.1904 เมื่อมองในครั้งแรกมันไม่สามารถบอกได้ชัดเจน ว่าเป็นภาพที่สื่อถึงกันในสามส่วนอันประกอบด้วยภาพใหญ่หนึ่งแผ่น และภาพเล็กอีกสองแผ่น โดยในแต่ละภาพแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปในวันวันหนึ่ง การปรับเปลี่ยนที่ละเอียดอ่อนจากส่วนหนึ่งไปยังส่วนต่อไป ซึ่งการข้ามผ่านจากรุ่งอรุณไปสู่เที่ยงวันจนถึงสู่ยามเย็นดูเหมือนเป็นสิ่งที่แน่นอนเช่นเดียวกับการดำเนินไปของชีวิต สิ่งที่น่าประทับใจคือการเคลื่อนไปอย่างช้าๆของฟิล์มโดยเริ่มต้นจากทางด้านซ้ายมือบนของแผ่น โดยวาดยามรุ่งอรุณให้ดูสลัว มีโครงสร้างของบ้านอยู่ไกลลิบซึ่งขยายออกไปกลายเป็นขอบเขตของภาพ ส่วนทางด้านซ้ายมือล่างแสดงให้เห็นแสงแพรวพรายของช่วงเที่ยงวันแห่งการพักผ่อน และนำไปสู่มุมมองสุดท้ายทางด้านขวามือคือสิ่งก่อสร้างซึ่งยังคงสร้างไม่เสร็จที่ขีดเงาให้เข้มคล้ายจะเข้าใกล้ยามค่ำซึ่งปกคลุมเหล่าคนทำงานที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกันก็พาดพิงถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการตรากตรำทำงานและความฝันของผู้คนเหล่านั้นไปด้วย

ภาพ "Saying Good-bye",1908 ถูกจัดแสดงในงานเมื่อปี ค.ศ.1910 เป็นภาพสถาปัตยกรรมที่ดูแข็งทื่อ แสดงทางบันไดเวียนก้นหอยอันน่าวิงเวียน การประดับและตกแต่งรวมถึงพลังและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งเป็นไปได้ตามของบรรทัดฐาน Art Nouveau นี้ เป็นการใช้มุมทัศวิสัยที่เสี่ยงและผิดปรกติซึ่งทำให้หวนนึกถึงภาพถ่ายอีกครั้ง ทัศนคติตามที่ปรากฏแก่สายตา คือ เร่งการตกลงมาอย่างรวดเร็วลงในหลุมของทางบันไดซึ่งวาดผู้สังเกตไว้ในเงามัวเข้มเหมือนกับกระแสน้ำวน ส่วนประเด็นด้านล่างนี้เป็นเพียงการดึงดูดชั่วขณะเท่านั้น โดยมีผู้หญิงสามคนผู้จ้องมองเหนือขึ้นไป

นักวิจารณ์คนหนึ่งที่เขียนบทวิจารณ์งานแสดงผลงานปี 1910 ไม่พอใจในภาพ "Saying Good-bye" เพราะคิดว่ามีความหมายไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของบัลลาที่ส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับ ภาพ "Affetti" มากกว่า ซึ่งถูกจัดแสดงด้วยเช่นกัน ภาพวาดนี้เป็นที่ยอมรับว่า "ผลงานแห่งอารมณ์และความคิดของบทกวี"[4]


ช่วงฟิวเจอริสม์

เมื่อบัลลาได้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวแบบฟิวเจอริสม์ได้สร้างสรรค์ผลงานอย่างหลากหลาย ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่มีส่วนสำคัญให้แก่วงการศิลปะในช่วงนั้น

งานจิตรกรรม

ผลงานศิลปะของบัลลา แสดงถึงลักษณะที่พัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ในระยะแรกของฟิวเจอร์ริสม์ บัลลานิยามถึง "Dynamism" ว่าเป็นการจับความเคลื่อนไหวทางกายภาพลงในภาพวาด ขณะเดียวกันเขาก็ได้พัฒนาแบบแผนของแสงและสีที่หลากหลายในรูปแบบของช่วงนี้ ต่อมาในปี 1915 บัลลาได้ค้นพบคุณสมบัติของพลาสติกที่ขยายตัวยืดหดได้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสะท้อนทฤษฎีที่เป็นสากลของฟิวเจอร์ริสมฺในเรื่องพลังงาน นอกจากนี้เขายังตีความภาพของเขาว่า ได้เข้าใกล้สู่การประยุกต์งานหัตถกรรม

เนื้อหาของฟิวเจอริสท์ที่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าจากสงคราม สะท้อนให้เห็นทัศนคติความรักชาติอย่างชัดเจน ได้สนับสนุนให้อิตาลีเข้าร่วมสงคราม การประกาศจากสาธารณะและสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหลาย มีส่วนทำให้ความคิดเรื่องชาตินิยมแพร่หลายเป็นอย่างมาก ในสายตาของฟิวเจอริสท์ อิตาลีสมควรได้รับการยอมรับในฐานะแนวหน้าของสหภาพยุโรปทั้งทางการเมืองการปกครองและทางวัฒนธรรม ในเดือนพฤษภาคม ปี 1915 ประกาศสงครามกับออสเตรียและฮังการี ศิลปินฟิวเจอริสท์บางคนได้อาสาเข้าร่วมสงคราม

สำหรับในงานศิลปะ มีความกระตือรือร้นในการนำรูปทรงที่มาจากอุดมคติจากการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ และความละลานตาของสี บัลลาได้ใช้สูตรของภาพที่เป็นแบบนามธรรม นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ Fortunato Depero ได้พัฒนานิยามของการเคลื่อนไหวแบบฟิวเจอริสท์ในแถลงการณ์ The Futurist Reconstraction of the Universe สิ่งนี้เปรียบได้กับภาพวาดของบัลลาในปี 1915 ที่นี่สองศิลปิน กลายเป็นศิลปินแนวหน้าในระยะที่สองของฟิวเจอริสม์ ประกาศว่าศิลปะอยู่บนพื้นฐานที่ซับซ้อน เช่น นามธรรม การเคลื่อนที่ สีสันจัดจ้าน แสงสว่างจ้า อิสระ หมุนเวียน และถอดแยก เป็นการสร้างแนวทางใหม่ในกิจกรรมทางศิลปะ [5]

งานประติมากรรม

บัลลามีความคิดริเริ่มที่จะทดลองสร้างงานแบบอื่นๆ ในช่วงราว ค.ศ.1914 ได้สร้างประติมากรรมแบบนามธรรม ผลงานหลักที่สำคัญคือ Boccioni's Fist,1915 การสังเคราะห์พลังงานที่แลผิดมนุษย์ให้อยู่ในรูปเส้นพลังงานเหมือนการปล่อยหมัดของบอชโชนี แสดงออกมาโดยใช้สีแดง และรับเอาการวาดเส้น โดยเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวแบบฟิวเจอริสม์[6]

การออกแบบ

ผลงานในการออกแบบของบัลลานั้นมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโปสเตอร์,เฟอร์นิเจอร์,ตกแต่งภายในและเสื้อผ้าหรือแฟชั่น

- บ้านของบัลลาในกรุงโรม ที่อยู่อาศัยอย่างยาวนานกว่าสามสิบปี เป็นอพาร์ทเม้นที่อยู่บนชั้นที่สี่ของ Oslavia 39B ในเวลาต่อมา บัลลาได้พัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับภาพวาดแบบฟิวเจอริสท์ เกี่ยวกับ แถลงการณ์เรื่องสี ในปี 1918 ด้วยสิ่งนี้เองที่สามารถนำมาใช้ เพื่ออธิบายบ้านแบบโรมันของเขา " สีที่ระเบิด เพราะมีความสุข ความหนา ทางอากาศ ไฟฟ้า แบบไดนามิก ความรุนแรง " วัสดุต่างๆ ที่ใช้ทำดอกไม้,ใส่แสงร่วมเข้าไป,หน้าจอ,ราวแขวนเสื้อ,สิ่งทอ,Parchment,เย็บเสื้อผ้า,ทำเซรามิก,ทาสีผนังและการตกแต่งด้วยกรอบรูปภาพ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ยังคงอยู่ในที่เดิมของมัน เป็นส่วนหนึ่งของความคิดสร้างสรรค์ของบัลลา [7] และสะท้อนตัวตนของเขาออกมาได้เป็นอย่างดี

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: จาโกโม_บัลลา http://centrefortheaestheticrevolution.blogspot.co... http://identicaleye.blogspot.com/2010/05/bragaglia... http://www.colorsystem.com/?page_id=792&lang=en http://www.italianways.com/casa-balla-a-color-expl... http://www.serafinomacchiati.com/ http://www.sprovieri.com/rome/ http://saffrongirls.typepad.com/my_weblog/2009/06/... http://www.academia.edu/1935534/Ara_H._Merjian_A_F... http://www.vogue.it/en/encyclo/fashion/f/futurism/ http://www.elearning-art.net/art-net_courses/Movin...