ในประวัติศาสตร์ ของ จ้าว_ยฺเหวียนหย่าน

ในช่วงพระเยาว์ อ๋องแปดทรงเป็นที่กล่าวขานว่า มีพระสติปัญญาโดดเด่น พระบิดาจึงโปรดปรานนัก และให้ร่วมโต๊ะเสวยเสมอ นอกจากนี้ อ๋องแปดยังทรงเป็นที่สรรเสริญว่า มีพระกตัญญู เมื่อพระมารดาประชวร อ๋องแปดก็เสด็จมาปรนนิบัติมิได้ขาด อนึ่ง อ๋องแปดยังทรงฝักใฝ่ความรู้ทางอักษรศาสตร์และวรรณกรรม ต่างจากเจ้านายพระองค์อื่นที่มีพระทัยไปทางการทหาร อ๋องแปดยังทรงฝึกฝนอักษรวิจิตรจากพระอาจารย์หวัง ซีจือ (王羲之) และหวัง เซี่ยนจือ (王獻之)

เมื่อจักรพรรดิซ่งเหรินจงสืบบัลลังก์ต่อจากจักรพรรดิซ่งเจินจงโดยที่พระชันษายังน้อยอยู่ พระนางหลิว (劉) พระมเหสีของจักรพรรดิซ่งเจินจง ได้สำเร็จราชการแทน เพื่อเลี่ยงความวุ่นวายในราชสำนัก อ๋องแปดจึงไม่เสด็จเข้าวังอีกและทรงแสร้งมีพระสติวิปลาส จนกระทั่งพระนางหลิวสิ้นพระชนม์ อ๋องแปดจึงเสด็จเข้าวังไปทรงเปิดเผยว่า พระนางหลิวมิใช่พระมารดาที่แท้จริงของจักรพรรดิซ่งเหรินจง แต่เป็นนางหลี่ (李氏) คนรับใช้ของพระนางหลิว

จักรพรรดิซ่งเหรินจงไว้พระทัยในอ๋องแปดมาก ทรงตั้งอ๋องแปดเป็นประธานองคมนตรี ครั้นอ๋องแปดประชวรหนัก ก็ประทานเงิน 5,000 ตำลึง แต่อ๋องแปดทรงบอกปัด ตรัสว่า "ไยต้องให้คนที่ใกล้จะตายอยู่แล้วเป็นภาระของบ้านเมืองอีกเล่า" เมื่ออ๋องแปดทิวงคต จักรพรรดิซ่งเหรินจงก็ทรงจัดพระราชพิธีบูชาถึง 3 ครั้ง และทรงให้เผยแพร่พระนิพนธ์ของอ๋องแปดแก่ข้าราชการโดยทั่วกัน