ชตวร์มเกอชึทซ์ (
เยอรมัน: Sturmgeschütz) หรือเรียกอย่างย่อว่า
ชตูก (StuG) เป็นยานหุ้มเกราะรุ่นหนึ่งที่ถูกใช้งานโดยกองทัพ
เวร์มัคท์และ
วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส เป็นต้นแบบของยานหุ้มเกราะ อยู่ในช่วงระหว่าง
สงครามโลกครั้งที่สองซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย
ชตูก 3 และ
ชตูก 4 ชื่อทั่วไปส่วนมากของทั้งสองรถถัง ชตูก 3 นั้นถูกสร้างขึ้นบนฐานตัวรถถังของ
พันเซอร์ 3 ชตูก 3 ได้ถูกตั้งชื่อในตอนแรกว่า "ชตูก" แต่ด้วยการสร้างรถถังชตูก 4 นั้นได้ตั้งชื่อใหม่ให้เป็น ชตูก 3 เพื่อแยกความแตกต่างออกไป ในช่วงแรก, พวกเขาได้มุ่งหมายให้เป็นยานเกราะแท่นปืน ที่เคลื่อนที่เร็ว และให้การยิงสนับสนุนอย่างใกล้ชิดกับทหารราบเพื่อทำลายบังเกอร์ ป้อมปืนกล และตำแหน่งที่ยึดมั่นอื่นๆ ในช่วงสงครามกำลังก้าวหน้า จำนวนของลักษณะของตระกูลชตูกได้ทำให้เพิ่มคุณค่าให้กับกองกำลังพันเซอร์ภายหลัง
การรุกรานสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1941 ปัญหาที่สำคัญได้ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อได้พบว่าอาวุธหลักบนตัวรถถัง
พันเซอร์ เอ็มเค 2 และ 3 ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับรถถังรุ่นใหม่ของโซเวียตอย่างรถถัง
ที-34 และ
เควี-1 ปืนต่อต้านรถถังหลักของเยอรมัน,
3.7 ซม. แพค 36 ยังไม่สามารถที่จะยิงทะลุเจาะเกราะที่โซเวียตออกแบบ แม้ว่าปืนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ถูกพัฒนาขึ้น,
75 ซม. แพค 40 ป้อมปืนของรถถังพันเซอร์ เอ็มเค 3 รถถังหลักของเยอรมัน ยังไม่สามารถที่จะใส่กระบอกปืนขนาดใหญ่ได้ มันได้ถูกพบ อย่างไรก็ตาม ด้วยไร้ป้อมปืนของชตูกนั้นมีห้องที่เพียงพอในห้องพลขับรถถังเพื่อจัดการกับ 75 ซม. แพค 40 และปรับปรุงแก้ไขได้ถูกจัดการ ยานพาหนะใหม่ได้ถูกทำให้กลายเป็นรถถังพิฆาตที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ปืนหลักที่มีประสิทธิภาพที่เพียงพอที่จะทำลายรถถังใหม่โซเวียต แต่ฐานของรถถังพันเซอร์ เอ็มเค 6 ซึ่งมีพื้นฐานที่เคลื่อนที่เร็วและความน่าเชื่อถือสูง และการเพิ่มแผ่นเกราะมากขึ้นผสมกับภาพเงาต่ำทำให้เป็นยานพาหนะที่ยากต่อการทำลาย ชตูก 3 ได้กลายเป็นยานพาหนะติดเกราะที่ถูกผลิตมากที่สุดของ
นาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยจำนวนบางส่วน 10,000 คันเป็นตัวอย่างที่ถูกผลิตขึ้น