เทววิทยา ของ ชัยฏอน

กุรอาน

ชัยฏอนถูกกล่าวคู่กับมลาอิกะฮ์ถึง 88 ครั้ง และเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติที่ถูกกล่าวบ่อยที่สุดในอัลกุรอาน ในเรื่องราวของอะดัมและเฮาวาอ์ ชัยฏอนล่อลวงอะดัมให้กินผลจากต้นไม้ต้องห้าม ตามอัลกุรอาน 7:20 มันโต้แย้งว่า อัลลอฮ์สั่งห้ามกินผลไม้นี้ เพื่อไม่ให้พวกเจ้าเป็นอมตะ รายงานจากอัลกุรอาน 15:16-18 ชัยฏอนขึ้นไปยังสวรรค์เพื่อขโมยความลับ แต่กลับถูกไล่ตามโดยอุกกาบาต อย่างไรก็ตาม พวกญินสามารถเอาข้อมูลไปได้ในบางครั้ง[12] ในซูเราะฮ์ 2:102 กล่าวว่าชัยฏอนคือครูของวิชาหมอผีทั้งปวง อัลกุรอาน 37:62–68 กล่าวว่าผลซักกูม ต้นไม้ในนรก มีผลเป็นหัวชัยฏอน ซูเราะฮ์ 6:112 กล่าวว่า ชัยฏอน อยู่ท่ามกลาง อินส์ (มนุษย์) กับ ญิน รายงานตามอรรถกถา ประโยคนี้เป็นชื่อรองที่กล่าวถึงกบฏในหมู่มนุษย์และญิน แต่อีกอันหนึ่งอธิบายว่า ประโยคนี้อิงถึงชะยาฏีนที่ล่อลวงในหมู่ญินและมนุษย์[13]

ฮะดีษ

ในฮะดีษกล่าวถึงชัยฏอนว่าเป็นพลังซึ่งคิดร้ายที่เชื่อมกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ โดยชัยฏอนอยู่กับมนุษย์ทุกคน (ยกเว้นอีซา) และเคลื่อนที่ไปตามสายเลือดของมนุษย์ ในบันทึกของเศาะฮีฮ์ มุสลิม อิบลีสมีลูกชาย 5 ตนที่สร้างความหายนะในชีวิตประจำวัน: ติร “ผู้นำมาซึ่งความหายนะ, ความสูญเสีย และบาดเจ็บ; อัลอะวาร ผู้ส่งเสริมให้เกิดความมึนเมา; ซุต ผู้แนะนำให้โกหก; ดะซิม ผู้ก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างมนุษย์กับภรรยา; ซะลัมบูร ผู้นำเหนือบริเวณที่มีความติดขัดทางจราจร"[14] ชะยาฏีนพยายามรบกวนในเวลาละหมาดหรือชำระล้างร่างกาย ที่มากไปกว่านั้น มันมักมาในความฝัน และคุกคามผู้คน เมื่อใครสักคนหาว ก็ต้องปิดปาก เพราะชะยาฏีนอาจเข้าสู่ร่างกายได้ มีการกล่าวว่าในเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกระหว่างเขาของชัยฏอน จะไม่มีการละหมาดในเวลานั้น เพราะเป็นช่วงที่ประตูนรกเปิด[15] เศาะฮีฮ์ อัลบุคอรีกับญามิอ์ อัตติรมิซีกล่าวว่าชะยาฏีนไม่สามารถทำร้ายผู้ศรัทธาในช่วงเดือนเราะมะฎอน เพราะพวกมันถูกล่ามโซ่ใน ญะฮันนัม (เกเฮนนา)[16]

อรรถกถา

ชะยาฏีนถือเป็นหนึ่งในสามสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติในเทววิทยาอิสลาม แต่เพราะพวกมันมีคุณสมบัติในด้านการล่องหนคล้ายญิน นักวิชาการบางคนมักตั้งให้มันอยู่ในหนึ่งหมวดหมู่ของสิ่งที่เหนือธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ตามความเห็นใน ตัฟซีร ความแตกต่างระหว่างญินและชะยาฏีนมีดังนี้:[17][18]

  • ในขณะที่ญินนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน (มุสลิม, คริสต์, ยูดาย, พหุเทวนิยม เป็นต้น.) ชะยาฏีนมักชั่วร้ายเป็นพิเศษ
  • พวกญินเป็นปุถุชนและต้องตาย ในขณะที่ชะยาฏีนจะตายก็ต่อเมื่อผู้นำของมันถูกลบล้างจากการมีอยู่ บิดาของญินคืออัลญานน์ และบิดาของชะยาฏีนคืออิบลีส[lower-alpha 1]

ชะยาฏีนเป็นสิ่งมีชีวิตจากไฟนรก[20][21] และถึงแม้ว่าต้นกำเนิดของมันไม่ได้กล่าวไว้ในอัลกุรอาน นักวิชาการอิสลามยืนยันแนวคิดซ้ำหลาย ๆ ครั้งว่า ชะยาฏีนอาจถูกสร้างมาจากควัน[22]หรือไฟนรก[23] เมื่อเทียบกับปีศาจหรือมารในเทววิทยาศาสนาคริสต์ ชะยาฏีนไม่สามารถทำความดีและทำแค่ "ความชั่ว" อย่างเดียว อบูมุฟตีเขียนความเห็นใน al-Fiqh al-absat ของอบูฮะนีฟะฮ์ว่า มลาอิกะฮ์ (เทวทูต) ทั้งหมดเชื่อฟัง ยกเว้นฮารูตและมารูต แต่ชะยาฏีนทั้งหมดถูกสร้างให้ทำความชั่ว ยกเว้นฮาม อิบน์ ฮิม อิบน์ ละกิส อิบน์ อิบลีส มีแค่มนุษย์และญินเท่านั้นที่ถูกสร้างด้วยฟิฏเราะฮ์ นั่นหมายความว่า ทั้งมลาอิกะฮ์และชะยาฏีนไม่ค่อยมีเจตจำนงเสรีและถูกตั้งตามตำแหน่งอยู่แล้ว[24]

นักเขียนลัทธิศูฟีบางคนเชื่อมคำอธิบายของชะยาฏีนในฮะดีษถึงคุณสมบัติทางจิตวิทยาของมนุษย์ ตามแนวคิดว่าชะยาฏีนแพร่พันธุ์ผ่านการฟักไข่ในหัวใจของมนุษย์ อัลเฆาะซาลีเชื่อมสิ่งนี้กับการพัฒนาทางจิตวิญญาณด้านในว่า การฟักไข่ในหัวใจ ทำให้ลูกหลานของอิบลีสเติบโตและเชื่อมสัมพันธ์กับบุคคล ก่อให้เกิดบาปตามสิ่งที่ชัยฏอนต้องการ[25] เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อแตกต่างระหว่างแรงบันดาลใจจากสวรรค์กับการล่อลวงของชะยาฏีน ควรทดสอบด้วยสองสิ่งนี้: ข้อแรกคือความนับถือ ส่วนข้อสองคือสอดคล้องกับชะรีอะฮ์[26] อะลี ฮุจวีรีกล่าวในรูปแบบที่คล้ายกันว่า ชะยาฏีนกับมลาอิกะฮ์คือกระจกสะท้อนสภาพจิตใจของมนุษย์ โดยมีชะยาฏีนกับความต้องการทางตัณหา (นัฟส์) อยู่ฝั่งหนึ่ง และวิญญาณ (รูฮ) กับมลาอิกะฮ์อยู่อีกฝั่ง[27]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ชัยฏอน http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/002.qmt.html#002... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/006.qmt.html#006... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/007.qmt.html#007... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/015.qmt.html#015... http://www.usc.edu/dept/MSA/quran/037.qmt.html#037... http://dx.doi.org/10.1163/1573-3912_ei3_COM_26268 http://dx.doi.org/10.1163/1573-3912_islam_COM_1054 https://books.google.com/books?id=rDtbAAAAQAAJ&pg=... https://islamansiklopedisi.org.tr/can--cin