การเปลี่ยนแปลงของรายการ ของ ชามด์

ในระหว่างแปดฤดูกาลของภาพยนตร์ชุดนี้ โลกของสามดรุณีได้เปลี่ยนแปลงมากมาย รวมถึงการจากไปของนักแสดงและตัวละครต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์ชุดทั้งหมด เหตุผลอื่นของการเปลี่ยนแปลงของรายการนั้น Brad Kern ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างด้านบริหารได้เปิดเผยว่าเป็นผลมาจากการตัดงบประมาณ โดยเหตุผลส่วนใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงของรายการนั้นมักไม่ได้ถูกประกาศให้ทราบ ทำให้เกิดการโต้แย้งจากแฟนรายการมากมาย การเปลี่ยนแปลงของเรื่อง Charmed นั้นได้มีการพูดคุยกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย รวมถึงการถกเถียงกันเรื่องการโต้แย้งกันของ Kern กับ Burge และ Milano กับ Doherty

การเปลี่ยนแปลงแรกเริ่ม

  • ในฉบับดั้งเดิมนั้น Lori Rom แสดงเป็น Phoebe ในตอนนำร่องที่ไม่ได้ถูกฉายของ Charmed แต่หลังจากได้ไฟเขียวจากสถานีโทรทัศน์ Rom นั้นไม่ว่าง ทำให้ผู้อำนวยการสร้างอย่าง Aaron Spelling เรียกตัว Alyssa Milano ซึ่งแสดงเป็นแขกรับเชิญจากเรื่อง Melrose Place มาแสดงนำเป็น Phoebe แทน ทำให้บางส่วนของตอนแรกนั้นถ่ายทำใหม่บ้าง บางฉากได้ถูกเขียนใหม่และเพิ่มฉากบางฉากเข้าไปเพื่อทำให้ได้การฉายครั้งแรกที่เต็มชั่วโมงในชื่อตอน "Something Wicca This Way Comes"
  • นักแสดงอีกคน ชื่อ Chris Boyd ซึ่งแสดงเป็น Andy Trudeu ในฉากนำร่องที่ไม่ได้ถูกฉาย เขาถูกเรียกเป็น "นักสืบ" และคู่หูของเขาที่ชื่อ Daryl Morris ไม่มีตัวตน
  • Charmed ถูกซื้อทั้งฤดูกาลโดยสถานีโทรทัศน์หลังจากการฉายไปได้เพียงสองตอน ที่มีคนดูสูง โดยอ้างจากรายการสารคดี The Women of Charmed ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1999 หลังจากนั้น ตอนบางตอนได้ถูกถ่ายทำไปบ้างแล้ว และนักแสดงบางคนถูกแทนที่ รวมถึงผู้แต่งเพลงของเรื่อง (นี่รวมถึงการยกเลิกการใช้อุปกรณ์ตีระฆังในตอนเริ่มของภาพยนตร์ชุดนี้)
  • เรื่องราวบางเรื่องใน Charmed หลังจากหกตอนแรกนั้นได้ถูกเปลี่ยนไป โดยคัมภีร์เงามืด (The Book of Shadows) ภายหลังถูกกำหนดไว้ว่า อำนาจมืดไม่สามารถจับได้; สามีของคุณยายและปู่ของสามดรุณีและชื่อของเขาได้เปลี่ยนไป, สามดรุณีต่างมีความสัมพันธ์กับพ่อแต่ในตอนแรก ๆ พวกเธอไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพ่อของพวกเธอเลย และนอกจากนั้น เวลาที่ Victor Bennett จากภรรยาของเขาไป ซึ่งเป็นแม่ของสามดรุณีนั้น ก็ได้เปลี่ยนไปด้วย
  • Anthony Denison ตามจริงแล้วแสดงเป็นพ่อของสามดรุณีในฤดูกาลแรก ตอน "Thank You for Not Morphing" ในตอนนี้ได้กล่าวว่าตัวละครใช้ชื่อ Victor Halliwell โดยภายหลังได้เปลี่ยนเป็น Victor Bennet (มี "T" เพียงตัวเดียว) แผนผังครอบครัวในตอน "Pardon My Past" แสดงรายชื่อเขาเป็น Victor Jones และภายหลังในภาพยนตร์ชุดนี้ เขามีชื่อว่า Victor Bennett (มี "T" สองตัว)

การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของเรื่องราว

ในระหว่างฤดูกาลที่สองและสาม ผู้สร้างและผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร Constance M. Burge ได้ลาออก โดยทิ้งให้ Brad Kern ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริการจัดการต่อ Burge ยังผลิตรายการอื่น ๆ อยู่ แต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาด้านการสร้างสรรค์ของรายการนี้จนถึงฤดูกาลที่สี่[4] การลาออกของ Burge ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเรื่องราว แทนที่จะเป็นระบบปีศาจในแต่ละอาทิตย์ ได้กลายเป็นด้านชีวิตส่วนตัวของนักแสดงนำแทน

การต่อเนื่องกันของแต่ละตอนของรายการนี้ได้ถึงขั้นสุดท้ายในช่วงหลังของฤดูกาลที่สี่ โดยที่จำนวนผู้ชมได้เพิ่มขึ้นในช่วงสุดท้ายของฤดูกาลที่สี่ (ตั้งแต่ตอนที่ 19 ถึง 21 ของฤดูกาลที่สี่) The WB ได้ขอให้ Brad Kern ละทิ้งระบบต่อเนื่องในอนาคต ทำให้ในฤดูกาลที่ห้าเป็นเรื่องราวที่เป็นตอน ๆ ไป และทำให้ระบบสองระบบสมดุลกันตั้งแต่ฤดูกาลที่หกเป็นต้นมา โดยการลาออกของ Constance M. Burge นั้นมักจะถูกโต้วาทีกันในเว็บไซต์แฟนคลับของ Charmed ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงนั้นไม่เคยถูกเปิดเผย บ้างก็มีข่าวที่ไม่มีการออกมายืนยันว่าจริงหรือไม่ (เช่น Burge ลาออกเพราะเธอไม่เห็นด้วยกับการสร้างตัวละคร Cole หรือการถกเถียงกันเรื่องโครงสร้างเรื่อง) ซึ่งก็ยังเป็นที่โต้แย้งกันในเหล่าแฟนภาพยนตร์ชุดนี้ ว่า Kern หรือ Burge ผู้ใดจะเป็นผู้อำนวยการสร้างที่ดีกว่า

การจากไปของ Shannen Doherty

ในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่สาม Shannen Doherty ได้ลาออกจากรายการ เป็นผลทำให้ตัวละครของเธอนั้นถูกฆ่าตาย และได้แนะนำตัวละครใหม่ของ Rose McGowan ชื่อ Paige ในตอน "Death Takes a Halliwell" เทวดาแห่งความตายได้บอกล่วงหน้าถึงการตายของ Prue ทำให้ "All Hell Breaks Loose" (ตอนจบของฤดูกาลที่สาม) กลายเป็นเรื่องราวที่ได้ถูกคาดคะเนและน่าตื่นเต้น แต่การตายของ Prue ในฤดูกาลที่สี่นั้นมีให้ชมได้เพียงตอนแรกของฤดูกาลเท่านั้น เหล่าแฟนรายการยังครุ่นคิดถึงการจากไปของ Doherty บางทีข่าวลือก็มีเกี่ยวกับการที่ Doherty มีความเครียดระหว่างผู้ร่วมงาน บางข่าวลือก็โทษ Alyssa Milano ในเหตุผลที่ว่า Milano ได้ขอผู้อำนวยการสร้างให้ปล่อย Doherty ออกจากรายการ ซึ่งข่าวลือพวกนี้ทำให้เกิดการโต้เถียงที่รุนแรงขึ้นว่าเป็นความผิดใคร ระหว่าง Doherty, Milano หรือคนอื่น

การเปลี่ยนเวลาการออกฉาย

ภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ได้เปลี่ยนเวลาการออกอากาศหลายครั้ง โดยตอนแรกนั้นได้ออกอากาศคืนวันพุธ ต่อมาได้ย้ายไปเป็นคืนวันพฤหัสในฤดูกาลที่สอง และเมื่อเริ่มฤดูกาลที่ห้า รายการนี้ได้เปลี่ยนไปออกอากาศคืนวันอาทิตย์ในช่วง "The WB's Big Sunday" ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อยอดผู้ชม หลังจากที่ได้ย้ายไปออกอากาศวันอาทิตย์ รายการนี้ต้องแข่งขันกับรายการอื่นซึ่งมีผู้ชมมากเช่นกัน เช่น Extreme Makeover: Home Edition และ The Simpsons และรวมถึงงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงในจักรวาลของ Charmed

ในสามฤดูกาลแรก Charmed มีเพียงสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ซับซ้อน เช่น เน็กซัสแห่งวิญญาณ และการใช้เวทมนตร์คาถา รวมถึงสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์อื่น ๆ เช่น เทวทูตขาว และเทวทูตดำ โดยยังรวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่มักจะไม่ปรากฏบ่อยครั้งในวงการโทรทัศน์ เช่น Woogyman, the Wendigo หรือ the Banshee ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Constance M. Burge รวมถึงผู้แก้ไขเรื่องราวอย่าง Robert Masello ซึ่งเป็นผู้ชำนาญด้านเรื่องอภินิหารหรือนิยายในรายการนี้

ตั้งแต่ฤดูกาลที่สี่เป็นต้นมา ภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้เริ่มใช้สิ่งมีชีวิตจากนิยายอภินิหารของกรีกและโรมัน รวมถึงคติชาวบ้านทั่วไปอย่างเช่น Leprechauns และคนแคระ เป็นต้น

การตัดงบประมาณ

การตัดงบประมาณในฤดูกาลท้าย ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในรายการ

  • การตัดงบประมาณทำให้ปีศาจเริ่มมีหน้าตาคล้ายมนุษย์มากขึ้นไม่เหมือนกับฤดูกาลต้น ๆ ที่มีการแต่งหน้าปีศาจในรูปแบบต่าง ๆ
  • การตัดงบประมาณที่สามารถเห็นได้ชัดอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือ การตัดสินใจของ WB ที่ไม่ให้ Brian Krause และ Dorian Gregory ปรากฏตัวในฤดูกาลที่แปด แต่อ้างอิงจาก Brad Kern เขาได้กล่าวว่าได้จัดการเรื่องงบประมาณใหม่แล้วให้ Krause ได้แสดงในฤดูกาลสุดท้าย 12 ตอน เพื่อป้องกันการจบเรื่องแบบขาดตอนและการขัดกับเรื่องที่แต่งไว้แล้ว เงินจำนวนหนึ่งได้เก็บไว้เพื่อให้ Krause ได้แสดงในสองตอนสุดท้ายของเรื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตัวละครของ Gregory ได้ถูกเขียนให้ออกจากรายการ โดยตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่เจ็ดคือตอนสุดท้ายที่เขาได้แสดง
  • ในบทสัมภาษณ์จากนิตยสาร Charmed Magazine Brad Kern เปิดเผยว่าในฤดูกาลสุดท้าย ตัวเขาเอง รวมถึงผู้อำนวยการสร้าง Aaron Spelling และ E. Duke Vincent และบรรดาเพื่อนร่วมงานบางคนได้เลือกที่จะลดเงินเดือนตัวเองเพื่อแลกกับคุณภาพของรายการ โดยในฤดูกาลสุดท้ายนั้น งบประมาณถูกลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์