ทั่วไป ของ ชามด์

แม่มด "สามดรุณี" (The Charmed Ones) ในฤดูกาลที่หนึ่งถึงสาม จากซ้าย: Holly Marie Combs เป็น Piper Halliwell, Shannen Doherty เป็น Prue Halliwell และ Alyssa Milano เป็น Phoebe Halliwell

เรื่องราวของ Charmed เริ่มต้นเมื่อพี่น้อง Halliwell — Prudence "Prue", Piper และ Phoebe — ได้พบกันอีกครั้งหกเดือนหลังจากการเสียชีวิตของคุณยายของพวกเธอ โดย Phoebe น้องสาวคนเล็กได้ย้ายกลับเข้ามาอยู่ในบ้าน Halliwell ในแซนแฟรนซิสโกอีกครั้ง โดยเธอได้ค้นพบหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง — คัมภีร์แห่งเงามืด (หรือ The Book of Shadows) — ในห้องใต้หลังคา โดยเธอได้อ่านคาถาจากหนังสืออย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คำทำนายอันเก่าแก่ได้เป็นจริง และในเวลาเดียวกัน สิ่งประหลาดต่าง ๆ ก็ได้เกิดขึ้นรอบตัวของพวกเธอ จนในที่สุด ทำให้พวกเธอรู้ตัวว่า พวกเธอเป็นแม่มด

พวกเขาไม่เพียงแต่ค้นพบว่าตัวเองได้ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังพบว่าพลังนี้ตกทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นแม่มดที่มีอำนาจ โดยแม่มดคนแรกคือ Melinda Warren ซึ่งได้ควบคุมพลังเหนือธรรมชาติสามอย่าง นั่นก็คือ อำนาจในการเคลื่อนย้ายสิ่งของโดยใช้จิต อำนาจในการหยุดเวลา และอำนาจในการมองเห็นอนาคต แต่เธอกลับถูกเผาทั้งเป็นใน The Salem Witch Trials (ซึ่งเป็นการฆ่าแม่มดในซาเล็ม) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอได้ทำนายว่าในแต่ละรุ่นของเหล่าเชื้อสาย Warren (โดยภายหลังเปลี่ยนเป็น Halliwell) แม่มดจะมีอำนาจมากขึ้นและมากขึ้น จนถึงการมาถึงของพี่น้องผู้หญิงสามคน ซึ่งจะเป็นแม่มดที่มีอำนาจมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แม่มดสามคนนี้จะได้พลังสามดรุณี เป็นพลังที่มีอำนาจที่สุด

Prue Halliwell ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต ได้รับพลังการเคลื่อนไหวโดยที่ไม่ได้สัมผัสกับวัตถุ (หรือ Telekinesis) และสามารถเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ โดยใช้จิตของเธอ โดยพลังการเคลื่อนไหวของเธอในตอนแรกนั้นเกิดขึ้นโดยความโกรธ และเธอใช้ครั้งแรกผ่านทางดวงตา โดยภายหลังเธอสามารถใช้มือในการเคลื่อนสิ่งของได้ เหมือนกับบรรพบุรุษของเธอ Brianna รวมถึงคุณยายของเธอ (โดยสามารถเห็นได้ครั้งแรกในฤดูกาลแรก ชื่อตอนว่า "Out of Sight") โดยภายหลังเธอได้รับพลัง Astral Projection ซึ่งเธอสามารถสร้างตัวของเธอขึ้นมาได้อีก โดยเลือกปรากฏตัวได้ตามที่จิตเธอต้องการ โดยที่ร่างแท้จริงของเธอจะยืนไร้สติอยู่ ในฤดูกาลที่สาม ชื่อตอนว่า "Primrose Empath" ซึ่งเป็นหนึ่งในครั้งสุดท้ายที่เธอได้ใช้พลังนี้ เธอได้สร้างตัวของเธอขึ้นมาอีกร่าง โดยที่ร่างแท้จริงยังมีสติอยู่ได้ อำนาจ Astral Projection ของเธอได้พัฒนาขึ้นจากอำนาจ Telekinesis ของเธอเมื่อเธอต้องการจะอยู่ในที่สองที่พร้อมกัน

Piper เป็นลูกคนกลาง ซึ่งได้รับอำนาจในการหยุดเวลาหรือสิ่งของชั่วคราว (หรือ Time Freeze) หรือเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าการหยุดการเคลื่อนไหวในระดับโมเลกุล (หรือ Molecular Immobilization) โดยในตอนแรก Piper สามารถควบคุมพลังของเธอได้น้อย เธอไม่สามารถหยุดสิ่งของที่อยู่ไกลเกินไปได้ และเธอทำให้สิ่งของหรือปีศาจหยุดได้ในเวลาอันสั้น แต่หลังจากพลังของเธอมีอำนาจมากขึ้น เธอสามารถหยุดสิ่งของที่อยู่ไกลออกไปได้ เธอสามารถหยุดเวลาทุกอย่างในห้องได้ หรือเธอสามารถเลือกที่จะหยุดสิ่งของสิ่งเดียวหรือคน ๆ เดียวได้ และต่อมา ภายหลังจากที่เธอสามารถหยุดเวลาคนหรือปีศาจไว้ เธอสามารถทำให้ร่างการบางส่วนเคลื่อนไหวได้ ซึ่งสามารถใช้กับปีศาจเพื่อการซักถามคำถามได้ Piper ยังสามารถหยุดคนได้เป็นระยะเวลานาน โดยที่เธอไม่ต้องอยู่ในห้องเพื่อคอยทำให้คน ๆ นั้นหยุดเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยภายหลัง เธอได้ทราบว่าอำนาจของเธอนั้นทำงานโดยการหยุดการทำงานในระดับโมเลกุลจนถึงระดับที่วัตถุถูกหยุดเวลาไว้ โดยต่อมาเธอได้พัฒนาพลังของเธอแทนที่จะสามารถทำให้โมเลกุลเคลื่อนที่ช้าลงอย่างเดียว เธอยังสามารถทำให้โมเลกุลเคลื่อนที่เร็วและระเบิดวัตถุนั้น ๆ ซึ่งเรียกว่าการเผาไหม้ในระดับโมเลกุล (หรือ Molecular Combustion) พลังของเธอนั้นถูกกระตุ้นโดยความกลัว ตกใจและประหลาดใจ ในระหว่างที่พลังการระเบิดของเธอนั้นถูกกระตุ้นโดยความโกรธ (ก่อนที่เธอจะสามารถควบคุมพลังของเธอได้ทั้งหมด)

Phoebe ซึ่งเป็นน้องคนเล็กสุด ได้อำนาจในการเห็นนิมิต ซึ่งเป็นอำนาจที่ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ โดยเธอสามารถเห็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ภายหลังเธอสามารถเห็นเหตุการณ์ในอดีตได้ด้วย) อำนาจเธอถูกกระตุ้นโดยการจับต้องผู้คนหรือสิ่งของ รวมถึงสิ่งที่ตกเหลือในบริเวณนั้นมีพลังมากพอ ภายหลังอำนาจของเธอมีพลังมากขึ้น โดยเธอสามารถรู้สึกถึงอารมณ์ต่าง ๆ ในนิมิตได้ เช่น เมื่อเธอสามารถรู้สึกได้ว่าแม่ของเธอจมน้ำตอนที่เธอมองเห็นภาพในอดีต ในฤดูกาลที่สองของภาพยนตร์ชุด ชื่อตอน "P3 H2O" โดยความสามารถในการรู้ถึงอารมณ์ในนิมิตนั้นอาจสามารถคาดคะเนได้ถึงอำนาจในการหยั่งรู้ในอนาคตได้ ในฤดูกาลที่ห้า ชื่อตอน "The Eyes Have It" หลังจากที่เธอไม่ได้ใช่อำนาจนิมิตมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนเนื่องจากความเครียดและการทำงานมากเกินไป เธอได้ไปหาชาวยิปซีเพื่อที่จะช่วยให้เธอสามารถใช้อำนาจของเธอได้อีกครั้ง จนเธอได้เห็นนิมิต โดยคราวนี้เธอสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาอีกคนในอนาคต และความสามารถในการรู้สึกได้มีอำนาจขึ้น โดยเมื่อเธอรู้สึกเจ็บในภาพนิมิต ตัวที่แท้จริงของเธอก็รู้สึกเจ็บเช่นกัน โดยการมีนิมิตแบบนี้เกิดขึ้นในจำนวนที่น้อยมาก เธอยังสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาในอนาคตแล้วคุยกับตัวเธอเองในอนาคตได้ ในขณะนั้น Phoebe ยังสามารถที่จะส่งต่อภาพนิมิตให้ผู้อื่นที่สามารถเห็นภาพนิมิตได้เช่นกัน และในที่สุด เธอก็ยังได้อำนาจในการลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งมีประโยชน์เมื่อเธอใช้คู่กับทักษะศิลปะการต่อสู้ของเธอ โดยพลังนี้เห็นได้ครั้งแรกในตอนแรกของฤดูกาลที่สาม ชื่อ "The Honeymoon's Over" อำนาจในการหยั่งรู้ของเธอได้พัฒนาขึ้นภายหลังในเรื่องนี้ ซึ่งทำให้เธอสามารถอ่านใจผู้อื่นได้ ทำให้เธอสามารถต่อสู้กับปีศาจต่าง ๆ ได้ รวมถึงพวก Valkyries ที่ได้พบเจอในตอน "Valhalley of the Dolls (Part 2)"

หลังจากการเสียชีวิตของ Prue พวกเธอได้รู้ว่ายังมีน้องสาวครึ่งสายเลือดชื่อ Paige ซึ่งให้กำเนิดโดยแม่ที่ชื่อ Patty และเทวทูตขาว (หรือ Whitelighter) ที่ชื่อ Sam ซึ่งเป็นผู้ปกป้องสำหรับแม่มด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเทวทูตขาวกับแม่มดในตอนนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามและยังไม่เคยเกิดขึ้น พวกเขายกลูกสาวให้กับแม่ชี Sister Agnes และภายหลัง ครอบครัว Matthew รับเลี้ยงเธอ โดยพ่อแม่ที่แท้จริงของพวกเธอขอเพียงแค่ให้ตั้งชื่อลูกขึ้นต้นด้วยตัวอักษร 'P' ตามธรรมเนียม Paige ได้รับพลังในการเคลื่อนตัว ซึ่งได้มาจากพ่อซึ่งเป็นเทวทูตขาว ในตอนแรก Paige ทำได้เพียงแค่เคลื่อนหายตัวออกไปเพียงชั่วขณะ และกลับมาอยู่ที่จุดเดิม ซึ่งถูกกระตุ้นโดยความกลัวและความประหลาดใจ ภายหลัง เธอสามารถเคลื่อนหายตัวในไหนก็ได้ที่เธอต้องการ เพื่อให้คำทำนายที่กล่าวว่าสามดรุณีจะมีอำนาจสามอย่างเป็นจริงนั้น พี่น้องคนที่สามจะต้องมีอำนาจในการเคลื่อนย้าย ซึ่งการเป็นครึ่งแม่มด ครึ่งเทวทูตขาว ทำให้อำนาจของ Paige ที่ได้รับตกทอดมาจาก Patty ซึ่งเป็นแม่นั้นแตกต่างจากการเคลื่อนย้ายที่ Prue มี Paige นั้นสามารถที่จะเคลื่อนย้ายสิ่งของด้วยการเรียกหา แล้วสิ่งของนั้นจะเคลื่อนหายตัวมาหาเธอหรือไปยังสถานที่ที่เธอต้องการให้ไป จะเห็นได้ว่าอำนาจนี้ต้องใช้การเปล่งเสียง แต่เธอยังสามารถทำได้โดยไม่เปล่งเสียงในสถานะที่สูงขึ้นและในกรณีอื่น ๆ อำนาจนี้เรียกว่า การเคลื่อนย้ายด้วยการเคลื่อนหายตัว (หรือ Telekinetic Orbing) ในฤดูกาลที่ห้า Paige เปิดเผยว่าเธอยังมีอำนาจอื่นที่ได้มาจากเทวทูตขาว เช่นการเปลี่ยนลักษณะรูปร่างของสิ่งของ (หรือ Glamouring) ในตอนกลางของฤดูกาลที่แปด Paige ได้พัฒนาอำนาจเทวทูตขาวของเธอ โดยเธอสามารถรักษาผู้บริสุทธิ์ได้และยังรู้ว่าบุคคลที่ตนดูแลอยู่นั้นอยู่ที่ใดจากการรู้สึกได้

ใจความของเรื่องทั้งหมดในภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้นั้นเกี่ยวกับการที่สามพี่น้องพยายามที่จะใช้ชีวิตปกติของพวกเขากับภาระด้านสิ่งเหนือธรรมชาติ ภาระที่จะต้องเก็บเรื่องทุกอย่างให้เป็นความลับจากโลกภายนอกนั้นสร้างความตึงเครียดให้พวกเธอด้านความสัมพันธ์ การทำงาน และด้านความรัก โดยมีคนไม่กี่คนที่รู้ถึงความลับของพวกเธอและคอยช่วยเหลือเธอ โดยบุคคลที่สำคัญที่สุดคือ Leo Wyatt ซึ่งเป็นเทวทูตขาว โดยท่านผู้เฒ่า (หรือ Elders) ได้ส่งเขามาดูแลสามดรุณี Leo นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องมากมายทั้งในด้านการงานและด้านส่วนตัว โดยเขาสามารถจะรักษาบาดแผลพวกเธอ คอยแนะนำพวกเธอโดยรวมหรือเป็นการส่วนตัว พยายามไกล่เลี่ยพวกเธอกับพวกผู้เฒ่า และเขายังกลายเป็นบุคคลที่ Piper รัก เป็นสามีของ Piper และเป็นพ่อของลูก ๆ โดยผู้อื่นที่ได้รู้ความลับของพวกเธอยังมีตำรวจที่ชื่อ Andy Trudeau และ Darryl Morris ครึ่งคนครึ่งปีศาจที่ชื่อ Cole Turner ผู้ท่องเวลาลึกลับชื่อ Chris Perry สองพี่น้อง Christy และ Billie Jenkins สามีของ Paige ที่ชื่อ Henry Mitchell และเหล่าชุมชนเวทมนตร์อื่น ๆ