เดิมชาวออสเตรเลียพื้นเมืองเป็นกลุ่มชนเร่ร่อนซึ่งอพยพมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดกันว่าเริ่มมาตั้งถิ่นฐานเมื่อประมาณ 50,000 ปีที่แล้ว[8][9][10] โดยเดินทางผ่านพุ่มไม้ ดำรงชีวิตโดยเก็บของป่าและล่าสัตว์โดยการขว้างหอกและไม้รูปโค้ง รวมถึงกินพืชและแมลงต่าง ๆ เป็นอาหาร ในบางพื้นที่มีการตั้งถิ่นฐานและทำการเกษตรแบบถาวร[11][12]

ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 กองเรือที่หนึ่งจากอังกฤษมาถึงอ่าวบอทานีในเดือนมกราคมของปีนั้น[13]เพื่อตั้งทัณฑนิคม ในคริสต์ศตวรรษที่ตามมา อังกฤษได้ตั้งอาณานิคมอื่น ๆ บนทวีป และนักสำรวจชาวยุโรปคนอื่น ๆ ได้สำรวจลึกเข้าไปในส่วนในของทวีป ชาวออสเตรเลียพื้นเมืองอ่อนแอลงอย่างมาก ส่วนประชากรก็ลดลงเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคหัด โรคฝีดาษ วัณโรค ฯลฯ โดยส่วนมากเสียชีวิตจากโรคฝีดาษ และความขัดแย้งที่มาพร้อมกับชาวยุโรป

ในช่วงที่ออสเตรเลียเป็นอาณานิคมของอังกฤษมักมีการปะทะกันระหว่างชนชั้นอาณานิคมกับชาวพื้นเมืองอยู่บ่อย ๆ โดยข้อมูลที่ได้จากการวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2020 พบว่ามีสถานที่เกือบ 500 แห่งที่เคยมีการฆาตกรรมหมู่ชาวพื้นเมืองเกิดขึ้น ชาวพื้นเมือง 12,361 คนถูกฆ่าและชนชั้นอาณานิคม 204 คนถูกฆ่า[14] และพบอีกว่าเคยเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ชาวพื้นเมืองมากถึง 311 ครั้งในช่วง 140 ปีที่ออสเตรเลียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ จากเหตุการณ์เหล่านั้นส่งผลให้สูญเสียประชากรชาวพื้นเมืองไปมาก ส่วนชาวพื้นเมืองที่รอดชีวิตส่วนมากก็พิการจนไม่สามารถล่าสัตว์ ทำพิธีกรรมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งป้องกันตนเองได้[15]

ปัจจุบันจำนวนประชากรชาวออสเตรเลียพื้นเมืองเพิ่มขึ้นจากเดิมมากโดยเฉพาะในเมืองหลักและชายฝั่งทิศตะวันออกของออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีชาวพื้นเมืองบางส่วนที่ยังคงดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมอยู่แต่มีไม่มากนัก