ชีน-มโย่เมียะ (
พม่า: ရှင်မျိုးမြတ်, ออกเสียง: [ʃɪ̀ɴ mjó mjaʔ]; ประมาณคริสต์ทศวรรษ 1490 – ประมาณคริสต์ทศวรรษ 1520) เป็นพระนมของ
พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้แห่ง
ราชวงศ์ตองอู และพระราชมารดาของ
พระเจ้าบุเรงนอง[1] ใน ค.ศ. 1516 พระนางและพระสวามีคือ
เมงเยสีหตูได้เข้ามาเป็นข้าราชสำนักตองอูตั้งแต่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยังเป็นทารก ตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่าพระนางเป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของ
พระเจ้าสีหตู ปฐมกษัตริย์แห่ง
อาณาจักรปี้นยะ (ครองราชย์; 1310–1325) กับพระอัครมเหสี
มีสออูจากราชวงศ์
พุกาม แต่จากประวัติที่เล่าต่อกันมากล่าวว่าพระนางและพระสวามีเป็นคนธรรมดาสามัญจาก
พุกามหรือ
ตองอู[2]ในพงศาวดารกล่าวไว้อีกว่าได้มีการสถาปนาพระนางเป็นพระราชวงศ์ ภายหลังจากพระนางสิ้นพระชนม์เมื่อประมาณคริสต์ทศวรรษ 1520 ในฐานะข้าราชสำนัก และพระนางไม่ทันได้เห็นพระโอรส-ธิดาทั้ง 4 ได้เป็นพระราชวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์ตองอู ตั้งแต่พระราชบุตรองค์ใหญ่
ขิ่นโปนสอ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ใน ค.ศ. 1530 และพระราชบุตรองค์ที่ 2
จะเด็ด ได้อภิเษกกับ
ตะขิ่นจี พระขนิษฐาต่างพระราชมารดาของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ใน ค.ศ. 1534
[3] พระสวามีของพระนางได้อภิเษกอีกครั้งหลังจากที่พระนางสิ้นพระชนม์แล้วกับพระขนิษฐาของพระนางพร้อมกับได้รับการสถาปนาเป็นอุปราชแห่ง
ตองอู ระหว่าง ค.ศ. 1540–1549
[4] และในระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนองพระโอรสอีก 2 พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นอุปราชแห่ง
เมาะตะมะและ
แปร พร้อมกับได้รับพระอิสริยยศเป็น
เมงเยสีตูและ
ตะโดธรรมราชาที่ 2 ใน ค.ศ. 1552 และสีตู พระเชษฐาหรือพระอนุชาของพระนางได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมือง
พุกามใน ค.ศ. 1551
[5]