ชีวิต ของ ซัวเอี๋ยม

ซัวหยง บิดาของซัวเอี๋ยม เป็นบัณฑิตจากเทศมณฑลยฺหวี่ (圉縣) แห่งมณฑลเฉินหลิว (陳留郡) ปัจจุบันคือเทศมณฑลฉี (杞县) แห่งนครไคเฟิง (开封市)[2]

ซัวเอี๋ยม สมรสกับชายชื่อ เว่ย์ จ้งเต้า (衛仲道) ใน ค.ศ. 192 แต่ชายผู้นั้นสิ้นชีวิตไปในไม่ช้าหลังแต่งงาน ยังไม่ทันมีบุตรด้วยกันแม้แต่คนเดียว[2]

ราว ค.ศ. 194–195 ประเทศจีนมีราชวงศ์ฮั่นตะวันออกปกครอง ชาวซฺยงหนูเข้ารุกราน และจับได้ซัวเอี๋ยมกลับไป ระหว่างเป็นเชลยอยู่นั้น ซัวเอี๋ยมสมรสกับหลิว เป้า (劉豹) ประมุขชาวซฺยงหนู ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกันสองคน[3]

สิบสองปีให้หลัง โจโฉ อัครมหาเสนาบดีฮั่น ใช้เงินจำนวนมากไถ่ซัวเอี๋ยมกลับคืนมาแทนซัวหยงผู้เป็นบิดา ซัวเอี๋ยมจึงได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน แต่ให้บุตรชายทั้งสองอยู่ยังแดนซฺยงหนูต่อไป เหตุที่โจโฉไถ่นางกลับมานั้น เพราะต้องการหาคนแซ่ซัวมาไหว้สรวงผีสกุลซัว และนางเป็นคนเดียวในสกุลนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่[3]

เมื่อกลับมาตุภูมิแล้ว ซัวเอี๋ยมสมรสเป็นครั้งที่สาม ครานี้กับชายชื่อตังกี๋ (董祀 ต่ง ซื่อ) เป็นข้าราชการที่เมืองบ้านเกิดของนาง แต่ภายหลังตังกี๋กระทำความผิดฉกรรจ์ ซัวเอี๋ยมจึงขอร้องให้โจโฉช่วยสามี หรือไม่ก็หาสามีใหม่ให้นาง เวลานั้นโจโฉกำลังเลี้ยงโต๊ะ ท่าทีและคำร้องขอของนางทำให้แขกเหรื่อของโจโฉแตกตื่น โจโฉจึงยอมออกคำสั่งอภัยโทษให้ตังกี๋[3]

มรณกรรมของซัวเอี๋ยมไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ มีแต่ร้อยกรองสองเรื่องที่นางประพันธ์ขึ้นในบั้นปลายชีวิตเพื่อพรรณนาความระส่ำระสายที่นางต้องเผชิญในช่วงนั้น