ระหว่างการระดมสมองเกี่ยวกับชื่อของการ์ตูน บรรณาธิการผู้ดูแลของฮิเดอากิ โซราจิได้แสดงความคิดเห็นว่า "คิดว่าซามูไรสีเงินดูเท่ไหมครับ?" เป็นแรงบันดาลใจให้โซราจิสร้างสรรค์ตัวละครหลักขึ้นมาหลังตัดสินใจแล้วว่าชื่อเรื่องของการ์ตูนควรเป็น กินทามะ [5] แผนเริ่มแรกของโซราจิสำหรับผลงานการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกคือให้เป็นเรื่องราวที่เน้นที่กลุ่มชินเซ็นงุมิ เพื่อเกาะกระแสละครเรื่อง ชินเซ็นงุมิ! ละครญี่ปุ่นที่นำดาราดังมารับบทเป็นกองกำลังตำรวจพิเศษชื่อดังของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามชินเซ็นงุมิตามรูปแบบของโซราจิกำหนดจะให้ไม่สมจริงเท่าที่จะเป็นไปได้ กองกำลังในชินเซ็นงุมิประกอบด้วยสมาชิกชายและหญิงมีลักษณะแปลกประหลาดไม่เหมือนชินเซ็นงุมิต้นแบบ รวมถึงตัวละครอีกหลายตัวที่มาเป็นส่วนหนึ่งของการ์ตูน หนึ่งในตัวละครในกลุ่มนี้คือชายผมสีเงินซึ่งกำหนดให้เป็นสมาชิกคนสำคัญอย่างฮิจิคาตะ โทชิโซ โซราจิชอบฮิจิคาตะเป็นพิเศษและต้องการให้เป็นตัวเอกของเรื่อง แม้ว่าจะไม่มีความคล้ายคลึงกับฮิจิคาตะตัวจริง[6]

ขณะที่โซราจิพอใจกับภาพร่างที่เขาออกแบบขึ้นสำหรับฮิจิคาตะที่มีผมสีเงิน แต่ก็ไม่สามารถจะกำหนดลักษณะตัวละครหรือกำหนดว่าจะให้ตัวละครทำอะไรในเรื่อง โซราจิพิจารณาจะทิ้งตัวละครนี้และบรรณาธิการก็เกือบจะบังคับให้เขายอมแพ้เรื่องแนวคิดของชินเซ็นงุมิแต่เดิม ในทื่สุดจึงตัดสินใจกันว่าตัวละครผมสีเงินนี้จะเป็นตัวละครนำที่สร้างขึ้นใหม่ ในขณะที่กลุ่มชินเซ็นงุมิจะเป็นขั้วตรงข้ามแบบตลก ๆ ตัวละครผมสีเงินได้ชื่อเล่นอย่างรวดเร็วว่า "คุณกิน" แนวคิดตดั้งเดิมของฮิจิคาตะผมสีเงินได้ตกไป และโซราจิได้สร้างสรรค์ลักษณะตัวละครขึ้นใหม่ให้เป็นนักรับจ้างหน้าปลาตายอย่างที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง[6] แนวคิดลักษณะตัวละครของกินโทกิคือจะให้เป็นบุคคลผู้แข็งแกร่งที่ไม่ขึ้นกับองค์กรใด ๆ และมีแนวโน้มจะไม่สนกฎเกณฑ์ใด ๆ แม้ว่ากินโทกิจะมีต้นแบบมาจากซากาตะ โนะ คินโทกิ (คินทาโร่) แต่โซราจิก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้กินโทกิเป็นเชื้อสายของซากาตะ โนะ คินโทกิ[7] กินโทกินั้นไม่มีพัฒนาการของตัวละคร ไม่เหมือนกับตัวเอกในการ์ตูนทั่วไป ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับภูมิหลังของตัวละครที่มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตเปลี่ยนไปจากการบุกรุกของชาวสวรรค์ แต่ก็ตั้งมั่นว่ายังมีบางสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไป[8]

ในซีรีส์อนิเมะ กินโทกิให้เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นโดยโทโมกาซุ ซูงิตะ เมื่อซูงิตะได้รู้ว่าตนได้รับเลือกให้พากย์เสียงตัวละครหลักของกินทามะ ซูงิตะก็ต้องการแสดงออกให้เข้ากับตัวละคร แต่ภายหลังซูงิตะก็มองตัวละครกินโทกิด้วยมุมมองที่กว้างขึ้น เขาเข้าใจว่ากินโทกิอยู่ได้อยู่การสนับสนุนของผู้คนมากมาย ซูงิตะจึงเปลี่ยนทัศนะของตนเมื่อพากย์เสียงตัวละคร[9]