สโมสรอาชีพ ของ ซาดีโย_มาเน

เซาแทมป์ตัน

ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ระหว่างฤดูกาล 2014–15 มาเนได้ทำแฮททริกในนัดที่เซาแทมป์ตันพบกับแอสตันวิลลา ด้วยเวลาเพียง 2.56 นาที นับเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูลที่ทำไว้ในนัดที่พบกับอาร์เซนอล เมื่อปี ค.ศ. 1994 และถือเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8[4]

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2016-17

มาเน ในปี ค.ศ. 2017

ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016 มาเนย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี[5] [6] และเป็นสถิติการซื้อตัวผู้เล่นชาวแอฟริกาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร[7]

ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ ฤดูกาล 2016 ลิเวอร์พูล เจอกับ บาร์เซโลนา ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาเนทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0[8] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 มาเนทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3[9] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนไม่ได้ลงสนามในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 0-2 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 2 มาเนกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบอร์ตันอัลเบียน 5-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 3 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[10] ต่อมา ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 4-1[11] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัลล์ซิตี 5-1[12] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-1[13] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[14] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2016 มาเนยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ บอร์นมัท 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 3-4[15]

ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูล ทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี บุกไปเยือนที่กูดิสันพาร์ก เจอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง โดย มาเนยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0[16] ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่สเตเดียมออฟไลต์ 2-2[17]

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะนัดแรกในลีกนับตั้งแต่ขึ้นปี 2017[18] ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[19] ต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1[20] หลังจบเกมส์ มาเนมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นเข่าฉีก ส่งผลให้มาเนหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาล[21]

ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2016-17 หลังจากยิงไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรกให้กับลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 มาเนคว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2017[22]

ฤดูกาล 2017-18

มาเนลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2017

ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[23] ต่อมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนยิงประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 1-0[24] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[25] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนสิงหาคมของพรีเมียร์ลีก[26] ต่อมา ในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2017 มาเนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในช่วงครึ่งแรก จากจังหวะยกเท้าสูงใส่หน้าผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี แอเดร์ซง โมไรซ์ จนใบหน้าของแอเดร์ซงได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนต้องส่งผู้รักษาประตูสำรองมาแทน ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 0-5 ทำให้ มาเนโดนแบน 3 นัด[27] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 3-3[28] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[29] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[30] ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 2-1[31] ต่อมา ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[32]

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ทำแฮตทริกให้กับลิเวอร์พูลในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ต่อจาก ไมเคิล โอเวน, ยอสซี เบนายูน และฟีลีปี โกชิญญู[33] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[34] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[35] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[36] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[37] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[38] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก มาเนทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ โรมา จากอิตาลี 5-2[39] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[40]

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน มาเนทำประตูตีเสมอ 1-1 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[41]

ฤดูกาล 2018-19

ก่อนจะเริ่มฤดูกาล 2018-19 มาเนเปลี่ยนสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนหมายเลข 19[42] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[43] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-0[44] ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม 2-1[45] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[46] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[47]

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 มาเนตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1[48] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[49] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[50] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เลสเตอร์ซิตี 1-1[51] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-1[52] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[53] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[54] ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 4-2[55] ต่อมา ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก ที่อัลลีอันทซ์อาเรนา 3-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[56] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 2-1[57] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก[58] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 2-0[59] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[60] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[61] ต่อมา มาเนยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน และ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ 3 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย

ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[62] มาเนยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ มาเนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง ร่วมกับ มุฮัมมัด เศาะลาห์ และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน มาเนช่วยให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ ก่อนที่ ซาลาห์ทำประตูขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[63]

ฤดูกาล 2019-20

ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี ในช่วง 120 นาที มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 2-2 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[64] ต่อมา ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะทีมเก่าของเขา เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-1[65] ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 3-0[66] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[67] ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ลงเล่น 50 นัดในบ้านให้สโมสรเดียว โดยไม่แพ้ใคร ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[68] ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2019 มาเนลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่ 100 และทำประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[69]

ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E มาเนทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[70] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[71] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[72] ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[73] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2[74] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[75] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[76] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 1-0[77]

ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[78] ต่อมา ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 1-0[79] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[80] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 14 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[81]

ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0[82] ต่อมา ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 16 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 2-0[83] ต่อมา ในวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 1-2 ต่อมา ในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 3-1[84] จบฤดูกาล มาเนช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[85]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซาดีโย_มาเน http://www.fifa.com/worldfootball/statisticsandrec... http://www.foot-national.com/19220-joueur-football... http://footballdaily365.com/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%... http://www.guideball.com/p-read-news.php?uid=52473 http://www.ligue1.com/coupeLigue/calendrier_result... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/f... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/l... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/m... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/m... http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/m...