เธอรอปซิดา ซีลีย์, 1895
[1]ซีแนปซิด (
อังกฤษ: Synapsids) เป็นกลุ่มของ
สัตว์ที่รวมทั้ง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมและสัตว์อื่นทุกชนิดที่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมมากกว่าสมาชิกอื่นใน
เคลดแอมนิโอตาอย่าง
สัตว์เลื้อยคลานและ
สัตว์ปีก[2] สัตว์จำพวกซีแนปซิดสามารถจำแนกออกจากแอมนิโอตอื่นได้โดยง่ายด้วยการมี
ช่องเปิดของกระดูกขมับ ซึ่งเป็นช่องเปิดใต้
เพดานกะโหลกศีรษะด้านหลังดวงตาแต่ละข้าง และเหลือแต่
โค้งกระดูกอยู่ข้างใต้ของช่องเปิดเหล่านั้น เอกลักษณ์ดังกล่าวเป็นที่มาของชื่อเคลด
[3] ซีแนปซิดเริ่มแรกนั้นมักเรียกกันว่าเป็น
พีลีโคซอร์หรือไซแนปซิดเกรดพีลีโคซอร์ คำไม่เป็นทางการนี้ประกอบด้วยไซแนปซิดทั้งหมดที่ไม่เป็นเธอแรปซิด ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวของสัตว์คล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่พัฒนามากกว่า ไซแนปซิดที่ไม่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมได้รับการบรรยายว่าเป็น
สัตว์เลื้อยคลานคล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในระบบการจำแนกชั้นดั้งเดิม แต่ไม่มีการใช้ศัพท์ที่อาจทำให้เข้าใจผิดดังกล่าวแล้ว
[4][5] ปัจจุบันซีแนปซิดหมายถึง
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมต้นกำเนิดหรือ
โพรโต-แมเมิล[6] ซีแนปซิดวิวัฒนาการมาจากสัตว์ฐานจำพวกแอมนิโอต และเป็นหนึ่งในสองเคลดหลักของแอมนิโอต อีกเคลดหนึ่ง คือ
ซอรอปซิดา ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์จำพวกสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ปีก ช่องเปิดของกระดูกขมับที่เป็นเอกลักษณ์พัฒนาขึ้นในบรรพบุรุษของไซแนปซิด ประมาณ 312 ล้านปีก่อน ช่วง
ปลายยุคคาร์บอนิเฟอรัสซีแนปซิดเป็น
สัตว์มีกระดูกสันหลังบนบกขนาดใหญ่ที่สุดใน
ยุคเพอร์เมียน 299 ถึง 251 ล้านปีก่อน แม้ว่าช่วงสิ้นสุดยุคเพอร์เมียนจะมี
แพเรอาซอร์ขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่มีขนาดใกล้เคียงก็ตาม จำนวนและความหลากหลายของซีแนปซิดถูกลดลงไปอย่างมากโดย
เหตุการณ์การสูญพันธุ์ยุคเพอร์เมียน–ไทรแอสซิก ในช่วงเวลาการเกิดเหตุการณ์สูญพันธุ์ดังกล่าว ซีแนปซิดรูปร่างเก่าทั้งหมด (คือ
พีลีโคซอร์) สูญพันธุ์ไปแล้ว แทนที่ด้วยสัตว์จำพวกเธอแรปซิดที่พัฒนามากกว่า แม้ว่า
ไดซีโนดอนต์และ
ยูเธอริโอดอนต์ ซึ่งสัตว์กลุ่มหลังประกอบไปด้วย
ยูเธอโรเซฟาเลีย (เธอโรเซฟาเลีย) และ
อีพิซีโนดอนเทีย (
ซีโนดอนเทีย) จะมีชีวิตอยู่ในยุคไทรแอสซิกในฐานะเธอแรปซิดที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย อาร์โคซอร์กลายเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังบนบกขนาดใหญ่ที่สุดและมีจำนวนมากที่สุดในยุคนี้ แต่ก็ยังมีซีแนปซิดขนาดใหญ่เหลืออยู่จำนวนหนึ่งอย่าง
Lisowicia bojani ค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2551 โดยมีขนาดเท่าช้าง
โพรไบโนเนเธีย ซึ่งรวมถึง
เมอเมเลียฟอร์มิส เป็นซีแนปซิดกลุ่มสุดท้ายที่มีชีวิตรอดพ้นยุคไทรแอสซิก
[7] หลังเหตุการณ์การสูญพันธุ์ยุคครีเทเชียส–พาลิโอจีน ไซแนปซิดที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมก็มีความหลากหลายมากขึ้นอีกครั้งจนกลายเป็นสัตว์บกและสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดบนโลก