ประวัติ ของ ซูเปอร์เทสเตอร์

ในปี ค.ศ. 1931 นักเคมีของบริษัทดูป็อนต์ (DuPont) ชื่อว่าอาร์เธอร์ ฟ็อกซ์ ค้นพบว่า บุคคลบางจำพวกบอกว่าสาร phenylthiocarbamide[5] (PTC) มีรสขม แต่บางพวกกลับบอกว่า ไม่มีรส[10][11]ในงานประชุมปี ค.ศ. 1931 ของสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (American Association for the Advancement of Science) ฟ็อกซ์ได้เข้าร่วมงานกับนักพันธุศาสตร์อัลเบิรต์ เบลกสลี ทำการทดลองให้ผู้เข้าประชุมลิ้มรส PTC แล้วพบว่า 65% บอกว่า ขม 28% บอกว่า ไม่มีรสชาติ และ 6% บอกว่า มีรสอื่นงานวิจัยต่อ ๆ มาพบว่า ความสามารถในการรับรสของ PTC มีเหตุมาจากยีน]

ในคริสต์ทศวรรษที่ 1960 โรแลนด์ ฟิชเช่อร์ เป็นบุคคลแรกที่เชื่อมความสามารถในการลิ้มรส PTC และสารประกอบที่เกี่ยวข้องกันคือ propylthiouracil[4] (PROP) กับความชอบใจในอาหารและกับรูปร่างของร่างกายปัจจุบันนี้ PROP ได้แทนที่ PTC เพื่อใช้ในงานวิจัยเกี่ยวกับการลิ้มรสเพราะ PTC มีกลิ่นกำมะถันเล็กน้อย และเพราะความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ PTC[12]

ดังที่กล่าวมาก่อน ดร. บาร์โทชักและคณะได้ค้นพบว่า กลุ่มคนผู้รับรสอาหารสามารถแบ่งออกเป็นระดับกลางและระดับซูเปอร์ค่าประเมินโดยมากเสนอว่า 25% ในประชากรเป็นผู้รับรสพื้นฐาน (nontaster) 50% รับรสได้ในระดับกลาง และ 25% เป็นซูเปอร์เทสเตอร์[13]

มีการเชื่อมโยงยีนของตัวรับรส TAS2R38 กับความสามารถในการได้รส PROP[4][14]และ PTC[5][15]แต่ว่า เหตุนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างหมดสิ้น[16]

หลังจากนั้น ก็มีการเชื่อมต่อลักษณะทางพันธุกรรม (genotype) ประเภท T2R38 กับการชอบของหวาน ๆ ในเด็ก[17]การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์[14][14]ความชุกที่สูงขึ้นของมะเร็งลำไส้ใหญ่ (เพราะการบริโภคผักผลไม้ที่ไม่เพียงพอ) [18]และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่[19]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซูเปอร์เทสเตอร์ http://www.abc.net.au/radionational/programs/healt... http://books.google.com/books?id=SJYGmkmnPT8C&pg=P... http://www.oregonlive.com/foodday/index.ssf/2011/0... http://cat.inist.fr/?aModele=afficheN&cpsidt=55366... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10744897 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10869591 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11259346 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11595676 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15547448 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15687429