ดันเจียนซีจ (
อังกฤษ: Dungeon Siege) เป็น
เกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทที่พัฒนาโดย
แก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ ซึ่ง
ไมโครซอฟท์ได้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม
ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2002 และ
เดสทิเนียร์ได้จัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม
แมคโอเอสเท็นในปีถัดไป โดยมีฉากอยู่ในอาณาจักรยุคกลางสมมติ ชื่อ เอห์บ เกมนี้ยังจัดเป็นแนว
แฟนตาซีระดับสูงที่เดินเรื่องตามชาวไร่หนุ่มคนหนึ่งและเพื่อนร่วมทางขณะที่พวกเขาออกเดินทางเพื่อกำจัดกองกำลังที่รุกราน ในตอนแรก กลุ่มตัวเอกเพียงต้องการเตือนเมืองใกล้เคียงเกี่ยวกับการรุกรานของเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่ชื่อครุก และในอีกไม่นาน ชาวไร่คนดังกล่าวและเพื่อนร่วมทางกับเขาตกอยู่ในสถานการณ์หาทางเอาชนะเผ่าพันธุ์อื่นที่เรียกว่าเซกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งฟื้นคืนพลังใหม่หลังจากถูกคุมขังอยู่ 300 ปี โลกของดันเจียนซีจไม่ใช้ระบบ
เลเวลเหมือนกับ
วิดีโอเกมเล่นตามบทบาทอื่น ๆ ในยุคนั้น หากแต่เป็นพื้นที่เดียวที่ต่อเนื่อง โดยปราศจาก
การโหลดหน้าจอ ซึ่งผู้เล่นเดินทางผ่านเพื่อต่อสู้กับฝูงศัตรู นอกจากนี้ แทนที่จะกำหนด
คลาสตัวละครและควบคุมตัวละครทั้งหมดในกลุ่มด้วยตนเอง ผู้เล่นจะควบคุมกลยุทธ์และอาวุธ ตลอดจนการใช้เวทมนตร์โดยรวมของพวกเขา ซึ่งกำกับการเติบโตของตัวละครดันเจียนซีจเป็นผลงานแรกของบริษัทแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1998 โดย
คริส เทย์เลอร์ แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมาจาก
เกมวางแผนเวลาจริงอย่าง
โทเทิลแอนไนอะเลชันใน ค.ศ. 1997 เทย์เลอร์ต้องการสร้างเกมประเภทอื่นหลังจากเพื่อนร่วมงานหลายคนจาก
เคฟด็อกเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เข้าร่วม และพวกเขาก็ตัดสินใจสร้างเกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทเป็นเกมแรกหลังจากลองใช้แนวคิดหลายอย่างแล้ว เทย์เลอร์ยังรับหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้ออกแบบเกมนี้ รวมถึงเจคอบ แม็กแมน ในฐานะหัวหน้าผู้ออกแบบและผู้อำนวยการสร้างอีกคน ตลอดจน
นีล ฮอลฟอร์ด เป็นหัวหน้าผู้เขียนเรื่องราวและบทสนทนา ส่วน
เจเรมี โซล เป็นผู้แต่งเพลง ซึ่งเคยทำงานในโททัลแอนไนอิเลชัน บริษัทแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ได้ตั้งมั่นไปที่การสร้างเกมสวมบทบาทที่ตัดส่วนเหล่านี้จากองค์ประกอบประเภททั่วไป ที่พวกเขาพบว่าช้าหรือน่าคับข้องใจ เพื่อให้ผู้เล่นจดจ่ออยู่กับการกระทำ การพัฒนาใช้เวลากว่าสี่ปี แม้ว่าในตอนแรกจะมีการวางแผนว่าจะใช้เวลาเพียงสองปีเท่านั้น กระบวนการสร้างจนเสร็จภายในสี่ปีทำให้ทีมต้องทำงาน 12 ถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน และวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่เกือบตลอดเวลาเกมนี้ได้รับคะแนนสูงจากนักวิจารณ์เมื่อได้รับการเปิดตัว ซึ่งได้รับการระบุโดยเว็บไซต์ตัวรวบรวมบทวิจารณ์อย่าง
เมทาคริติกในฐานะเกมเล่นตามบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสามแห่ง ค.ศ. 2002 นักวิจารณ์ชื่นชมกราฟิกและโลกที่ไร้รอยต่อ ตลอดจนรูปแบบการเล่นที่สนุกและเข้าถึงได้ แต่กลับไม่สนใจโครงเรื่อง ดันเจียนซีจขายได้มากกว่า 1.7 ล้านชุด และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเกมเล่นตามบทบาทคอมพิวเตอร์แห่งปีประจำ ค.ศ. 2003 จาก
อะคาเดมีอินเตอร์แอกทีฟออฟอาร์ตแอนด์ไซเอนซ์ แก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ได้เน้นการสร้างและเปิดตัวเครื่องมือสำหรับผู้เล่นเพื่อใช้ในการสร้าง
ม็อดสำหรับเกมระหว่างการพัฒนา ส่งผลให้เกิดชุมชนม็อดที่ใช้งานได้หลังจากเปิดตัว ส่วน
ภาคเสริมอย่างดันเจียนซีจ: เลเจนส์ออฟอารานนา วางจำหน่ายใน ค.ศ. 2003 และมีการพัฒนาเกมซีรีส์เพิ่มเติมในแฟรนไชส์ ประกอบด้วย
ดันเจียนซีจ II (ค.ศ. 2005) รวมถึงภาคเสริมอย่าง
ดันเจียนซีจ II: โบรเคนเวิลด์ (ค.ศ. 2006) ตลอดจนภาคแยกที่มีชื่อว่า
ดันเจียนซีจ: โธรนออฟแอกโกนี (ค.ศ. 2006) และเกมหลักภาคสามอย่าง
ดันเจียนซีจ III (ค.ศ. 2011) ส่วนภาพยนตร์ไตรภาคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อเรื่องของดันเจียนซีจได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในชื่อ
ศึกนักรบกองพันปีศาจ (ค.ศ. 2007 ในโรงภาพยนตร์),
ศึกนักรบกองพันปีศาจ 2 (ค.ศ. 2011 ในรูปแบบ
โฮมวิดีโอ) และ
ศึกนักรบกองพันปีศาจ 3 (ค.ศ. 2014 ในรูปแบบโฮมวิดีโอ)