ชุดเยาวชน

ก่อนหน้านี้ มินามิโนะเคยเป็นตัวแทนของทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 15 และ 16 ปี[105] โดยขณะที่เล่นให้กับทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีนั้น เขาได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี[106] เขาช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก โดยทำสามประตูในรอบแบ่งกลุ่ม หนึ่งในนั้นคือการยิงใส่ทีมชาติเวียดนาม[107] และในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำประตูช่วยให้ญี่ปุ่นเอาชนะอิหร่าน 3–1[108] ญี่ปุ่นตกรอบด้วยการพ่ายแพ้ต่อเกาหลีเหนือ 2–1 ในรอบรองชนะเลิศ โดยมินามิโนะทำประตูเดียวให้กับญี่ปุ่นในนัดนั้น[109] อย่างไรก็ตาม เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในรายการนั้น เทียบเท่ากับติมูร์ คาร์คีมอฟ[110]

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 มินามิโนะถูกเลือกติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีในการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี[111] เขาได้ลงเล่นสี่นัดและทำประตูในนัดที่พบกับนิวซีแลนด์[112]

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 มินามิโนะถูกเรียกติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ทำให้เขาพลาดการลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเซเรซโซทั้งหมดสามนัด[113] เขาทำประตูแรกในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่พ่ายแพ้ต่อจีน 2–1[114] ต่อมาเขาทำสองประตูในนัดที่สามของรอบแบ่งกลุ่ม ช่วยให้ญี่ปุ่นเอาชนะเกาหลีใต้ 2–1 และผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกได้สำเร็จ[115] ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบกับเกาหลีเหนือ มินามิโนะทำประตูตามตีเสมอให้กับญี่ปุ่นจากลูกโทษ ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษหลังจากเสมอกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ เขายิงลูกโทษพลาด ทำให้ญี่ปุ่นตกรอบนี้ไป[116] ตลอดทั้งรายการ มินามิโนะทำประตูได้ทั้งสิ้น 4 ลูก[117]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2016 มินามิโนะถูกเรียกติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปีที่กาตาร์[118] เขาลงเล่นครบทุกนัดในรายการนี้และช่วยให้ญี่ปุ่นเข้าชิงชนะเลิศหลังจากที่เอาชนะอิรักในรอบรองชนะเลิศ 2–1[119] อย่างไรก็ตาม มินามิโนะไม่ได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศเนื่องจากถูกเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คเรียกตัวกลับ สุดท้าย ญี่ปุ่นชนะเลิศรายการนี้เป็นสมัยแรกหลังจากที่เอาชนะเกาหลีใต้ 3–2[120]

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016 มินามิโนะมีชื่อติดทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016[121] เขาได้ลงเล่นครบ 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม และทำประตูในนัดที่พบกับไนจีเรีย[122]

ชุดใหญ่

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 มินามิโนะมีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ในชุดเบื้องต้น 30 คนสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล[123] อย่างไรก็ตาม เขาถูกคัดชื่อออก[124]

มินามิโนะลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติญี่ปุ่นในนัดกระชับมิตรที่พบกับอิหร่านเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2015 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 87 ช่วยให้ทีมเสมอ 1–1[125] หนึ่งเดือนถัดมา วันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เขาลงเล่นนัดที่สองให้กับญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 86 ช่วยให้เอาชนะกัมพูชา 2–0[126] ใน ค.ศ. 2018 เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบสามปี[127] เขาทำประตูแรกในนามทีมชาติช่วยให้เอาชนะคอสตาริกา 3–0 เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2018[128] ต่อมา เขาทำประตูในนัดที่พบกับปานามาและอุรุกวัย[129]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2018 มินามิโนะมีชื่อเป็น 1 ใน 23 ผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดลุยศึกเอเชียนคัพ 2019[130] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 เขาลงเล่นนัดแรกในเอเชียนคัพ โดยทำแอสซิสต์ในการพบกับเติร์กเมนิสถาน[131] ในรอบรองชนะเลิศ มินามิโนะทำสองแอสซิสต์และมีส่วนช่วยให้ทีมชนะการยิงลูกโทษจนเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ[132] เขาทำประตูแรกในเอเชียนคัพในนัดชิงชนะเลิศที่พ่ายแพ่ต่อกาตาร์ 3–1[133] จบรายการ มินามิโนะได้ลงเล่นทั้งหมด 6 นัด[134] เขาทำเพิ่มอีกห้าประตูจากการลงเล่นในช่วงที่เหลือของ ค.ศ. 2019[135]