ลักษณะ ของ ทาร์เซียร์

ทาร์เซียร์มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากไพรเมตจำพวกอื่นคือมีขนาดเล็กมากโดยมีน้ำหนักตัวเพียง 80-150 กรัม ขนาดความยาวลำตัวไม่นับหางราว 5 นิ้วเท่านั้น นับเป็นสัตว์ในอันดับไพรเมตที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกจำพวกหนึ่ง แต่มีหางที่เรียวยาวเป็น 2 เท่าของความยาวลำตัว มีเบ้าตาขนาดใหญ่มาก มีกระดูกข้อเท้าหลังที่ยาวใช้ในการกระโดดและกระโดดได้ไกลและว่องไวเหมือนกบ[2] มีนิ้วมือเรียวยาวมาก และมีเล็บแบน เว้นแต่นิ้วที่ 2-3 จะมีกรงเล็บ และสามารถหมุนคอได้ 180 องศา คล้ายกับนกเค้าแมว อันเป็นการวิวัฒนาการแบบเข้าหากัน มีพฤติกรรมอาศัยโดยเกาะอยู่ตามต้นไม้ กินแมลงเป็นอาหาร และหากินในเวลากลางคืน[3]

ทาร์เซียร์หากินในเวลากลางคืน ในเวลากลางวันจะเซื่องซึม จะอาศัยหลับนอนตามโพรงหรือรอยแตกแยกของต้นไม้ใหญ่ เช่น กร่าง ที่ขึ้นเป็นกาฝากของต้นไม้ใหญ่ ทาร์เซียร์จะปล่อยกลิ่นที่ฉุนเพื่อประกาศอาณาเขตตามโคนต้นไม้ที่อาศัยอยู่ ซึ่งชาวพื้นเมืองของเกาะซูลาเวซีที่รับประทานทาร์เซียร์เป็นอาหาร เนื่องจากอาหารที่หายากบนเกาะ จะตามรอยทาร์เซียร์ได้จากการดมกลิ่นนี้ตามต้นไม้ ทาร์เซียร์เมื่อแรกเกิดมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์ในอันดับไพรเมตทั่วไป เทียบเท่ากับมนุษย์คลอดลูกที่มีความสูงถึง 80 เซนติเมตร แม้ลูกทาร์เซียร์จะเกาะหลังแม่เหมือนไพรเมตทั่วไป แต่ลูกทาร์เซียร์จะอาศัยพึ่งพิงแม่ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น [2]

ความคล้ายคลึง

ทาร์เซียร์แม้ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับลีเมอร์และกาลาโกหรือลิงลมมากกว่าลิงทั่วไป แต่จากการศึกษาทางสัณฐานวิทยาพบว่า ทาร์เซียร์มีความใกล้เคียงกับลิงและเอปมากกว่า เนื่องจากกระดูกเบ้าตาของทาร์เซียร์เหมือนกับลิงและเอปมากกว่า เพราะเป็นกระดูกเบ้าตาทั้งหมด ไม่เหมือนกับของลีเมอร์และกาลาโก รวมทั้งมีฟันที่เหมือนกับลิงและเอป มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้า ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ว่า 2.1.3.3 1.1.3.3 {\displaystyle {\tfrac {2.1.3.3}{1.1.3.3}}} [2]

ตา

ตาของทาร์เซียร์มีขนาดใหญ่ อันเป็นการวิวัฒนาการเพื่อสำหรับการหากินในเวลากลางคืน แต่ทาร์เซียร์สูญเสียทาพีตัม ลูซิเดี่ยมในดวงตาที่สำหรับใช้เก็บแสงได้เป็นอย่างดี ซึ่งจำเป็นในการหากินในเวลากลางคืน อันเป็นข้อสันนิษฐานว่าทาร์เซียร์ดั้งเดิมเคยเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางวัน และเมื่อทาร์เซียร์ต้องปรับตัวมาหากินในเวลากลางคืน เลยชดเชยด้วยการวิวัฒนการดวงตาให้มีขนาดใหญ่ แต่ทาร์เซียร์ไม่สามารถกลอกลูกตาไปมาได้ ซึ่งขนาดตาของทาร์เซียร์นั้นใหญ่กว่าสมองเสียอีก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร และนับว่าเป็นตาของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เทียบเท่ากับมนุษย์มีตาขนาดเท่าลูกมะพร้าว [2]

หู

ใบหูของทาร์เซียร์มีขนาดใหญ่ ใช้สำหรับการฟังเสียง เนื่องจากทาร์เซียร์ติดต่อสื่อสารกันด้วยเสียงร้องที่มีความถี่ 70 เฮิรตซ์ และสามารถรับฟังเสียงที่มีความถี่สูง 90 เฮิร์ตซ์ ซึ่งทาร์เซียร์แต่ละชนิดจะส่งเสียงร้องที่แตกต่างกัน และเสียงร้องของทาร์เซียร์แต่ละชนิดที่แตกต่างกัน จะไม่ได้รับการตอบสนองจากทาร์เซียร์ต่างชนิดกัน[4]