การขยายอำนาจในแถบคันโต ของ ทาเกดะ_ชิงเง็ง

เมื่อได้ขึ้นปกครองตระกูลทาเกดะแล้ว ฮารูโนบุจึงได้เริ่มทำการขยายอำนาจไปยังแคว้นชินาโนะ (ญี่ปุ่น: 信濃 โรมาจิShinano) ทางตอนเหนือจังหวัดนางาโนะในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยซามูไรหลายตระกูล ฮารูโนบุเอาชนะทัพของตระกูลต่าง ๆ ในแคว้นชินาโนะได้ ในยุทธการเซซาวะ (Sezawa) ในค.ศ. 1542 และยุทธการโอตาอิฮาระ (ญี่ปุ่น: 小田井原の戦い โรมาจิŌtaihara-no-tatakai) ใน ค.ศ. 1547 แต่พ่ายแพ้อย่างราบคาบแก่มูรากามิ โยชิกิโยะ (ญี่ปุ่น: 村上義清 โรมาจิMurakami Yoshikiyo) ในยุทธการอูเอดาฮาระ (ญี่ปุ่น: 上田原の戦い โรมาจิUedahara-no-tatakai) ในค.ศ. 1548 ในค.ศ. 1551 ทาเกดะ ฮารูโนบุได้บวชเป็นพระภิกษุมีชื่อว่า ชิงเง็ง (ญี่ปุ่น: 信玄 โรมาจิShingen) แม้จะบวชเป็นพระภิกษุแต่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลทาเกดะและทำสงครามต่อไป จนเป็นที่รู้จักด้วยชื่อทาเกดะ ชิงเง็ง

เมื่อรวบรวมแคว้นชินาโนะให้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองได้แล้ว ตระกูลทาเกดะจึงต้องขัดแย้งกับตระกูลอูเอซูงิแห่งแคว้นเอจิโงะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตระกูลที่กำลังเรืองอำนาจอยู่ในแถบคันโต โดยมีนางาโอะ คาเงโตระ (ญี่ปุ่น: 長尾景虎 โรมาจิNagao Kagetora) หรือต่อมาภายหลังคืออูเอซูงิ เค็งชิง (ญี่ปุ่น: 上杉謙信 โรมาจิUesugi Kenshin) ไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่แห่งคันโตอีกคนหนึ่ง สองมหาอำนาจแห่งคันโตได้สู้รบกันในยุทธการคาวานางาจิมะ (ญี่ปุ่น: 川中島の戦い โรมาจิKawanagajima-no-tatakai) ใกล้กับเมืองนางาโนะในปัจจุบัน อันเป็นยุทธการครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ในบริเวณภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เป็นจำนวนห้าครั้ง ในค.ศ. 1554, ค.ศ. 1555, ค.ศ. 1557, ค.ศ. 1561 และค.ศ. 1564 โดยที่ไม่มีฝ่ายใดชนะอย่างเด็ดขาด ในยุทธการคาวานางาจิมะครั้งที่สี่ในค.ศ. 1561 ทาเกดะ ชิงเง็งได้สูญเสียน้องชายคือทาเกดะ โนบูชิเงะ และทหารเอกคนสำคัญคือยามาโมโตะ คันซูเกะ (ญี่ปุ่น: 山本勘助 โรมาจิYamamoto Kansuke)

ในค.ศ. 1565 บุตรชายคนโตของชิงเง็งคือ ทาเกดะ โยชิโนบุ (ญี่ปุ่น: 武田義信 โรมาจิTakeda Yoshinobu) ได้ก่อกบฏหมายจะยึดอำนาจจากชิงเง็งแต่ไม่สำเร็จจึงถูกลงโทษกักขังไว้ที่วัดโทโก (ญี่ปุ่น: 東光寺 โรมาจิTōkō-ji) ในเมืองโคฟุ จนกระทั่งโยชิโนบุเสียชีวิตสองปีต่อมาใน ค.ศ. 1567 ชิงเง็งจึงแต่งตั้งให้บุตรชายคนที่สี่คือ ทาเกดะ คัตสึโยริ (ญี่ปุ่น: 武田勝頼 โรมาจิTakeda Katsuyori) ที่เกิดกับภรรยาน้อยคือ นางซูวะ (ญี่ปุ่น: 諏訪御料人 โรมาจิSuwa-Goryōnin) เป็นทายาทสืบทอดตระกูลทาเกดะต่อไป

ในค.ศ. 1560 อิมางาวะ โยชิโมโตะ ได้ถูกโอดะ โนบูนางะ สังหารในยุทธการโอเกฮาซามะ (ญี่ปุ่น: 桶狭間の戦い โรมาจิOkehazama-no-tatakai) ทำให้ตระกูลอิมางาวะตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแอและผู้นำคนใหม่คือ อิมางาวะ อูจิซาเนะ (ญี่ปุ่น: 今川氏真 โรมาจิImagawa Ujizane) บุตรชายของโยชิโมโตะผู้เป็นหลานของชิงเง็ง (บุตรของนางจิวเก-อินพี่สาว) นั้นก็ไม่เข้มแข็ง ชิงเง็งจึงนำทัพตระกูลทาเกดะเข้ารุกรานแคว้นซูรูงะของตระกูลอิมางาวะ (จังหวัดชิซูโอกะในปัจจุบัน) ในค.ศ. 1568 และในค.ศ. 1569 ได้ยกทัพเข้ารุกรานแคว้นซางามิ (ญี่ปุ่น: 相模 โรมาจิSagami) (จังหวัดคานางาวะในปัจจุบัน) ของตระกูลโฮโจ (ญี่ปุ่น: 北条 โรมาจิHōjō) อีกตระกูลที่กำลังเรืองอำนาจในภาคตะวันออก เข้าล้อมปราสาทโอดาวาระที่มั่นของตระกูลโฮโจแต่ไม่สำเร็จ จนทำสัญญาสงบศึกกับตระกูลโฮโจไปในที่สุดในค.ศ. 1571

ในค.ศ. 1572 โชกุนอาชิกางะ โยชิอากิ (ญี่ปุ่น: 足利義昭 โรมาจิAshikaga Yoshiaki) ได้ร้องขอให้ทาเกดะ ชิงเง็งต้านทานการขยายอำนาจของโอดะ โนบูนางะ ชิงเกนจึงนำทัพเข้ารุกรานแคว้นโทโตมิ (ญี่ปุ่น: 遠江 โรมาจิTōtōmi) จังหวัดชิซูโอกะ อันเป็นดินแดนของตระกูลโทกูงาวะ นำโดยโทกูงาวะ อิเอยาซุ ขุนพลคนสำคัญของโอดะ โนบูนางะ ชิงเง็งสามารถเอาชนะอิเอยาซุได้ในยุทธการมิกาตะงาฮาระ (ญี่ปุ่น: 三方ヶ原の戦い โรมาจิMikatagahara-no-tatakai)