เมนูนำทาง
ที-84 ระบบเครื่องควบคุมการยิงประกอบไปด้วย กล้องเล็งกลางวันแบบ 1G46M ของพลยิง, กล้องเล็งสร้างภาพด้วยความร้อนแบบ PTT-2 ,กล้องเล็งและตรวจการณ์ของผู้บังคับรถแบบ PNK -6 , ระบบควบคุมการยิงปืนกลต่อสู้อากาศยานแบบ 1ETs 29M1, คอมพิวเตอร์คำนวณ ขีปนวิธีแบบ TIUS-VM พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ป้อนข้อมูล, อุปกรณ์รักษาการทรงตัวของอาวุธแบบ 2E42M และอื่นๆ
ใช้ในการคำนวณแก้ค่าขีปนวิธีของกระสุนปืนใหญ่รถถัง โดย คอมพิวเตอร์แบบ TIUS-VM จะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ จากระบบเซ็นเซอร์ที่วัดค่าได้ เช่น ความเร็วรถถัง, ความเร็วเชิงมุมของเป้าหมาย, อาการเอียงของแกนลำกล้องปืนใหญ่, ความเร็วของลมพัดขวาง, ระยะเป้าหมาย และมุมภาคของเป้าหมาย นอกจากนี้ข้อมูลอื่นๆ ก็จะถูกนำเข้าด้วยมือ เช่น อุณหภูมิโดยรอบ, อุณหภูมิดินส่งกระสุน, อาการสึกของลำกล้องปืนใหญ่ และความดันของอากาศโดยรอบ เป็นต้น นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังทำการคำนวณเวลาที่เหมาะสมสำหรับกระสุนแบบ ดินระเบิดแรงสูงแบบมีสะเก็ด ( HE-FRAG ) ให้ระเบิดเหนือเป้าหมายได้อีกด้วย ระบบควบคุมการยิงมีประสิทธิภาพสูง เมื่อปุ่มไกปืนถูกกด ปืนจะทำการยิงก็ต่อเมื่อมีการแก้ค่าความแตกต่างระหว่าง แนวเส้นเล็งกับแนวแกนปืนใหญ่รถถังอยู่ในย่านที่ยอมรับได้ ขนาดของ “มุมยิง” ขึ้นอยู่กับระยะยิง และปัจจัยอื่นๆ ลำกล้องปืนใหญ่รถถังสามารถทำงานผิดเพี้ยนไปได้ด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ความร้อนจากการยิง, ฝนตกบนพื้นผิว, การแพร่กระจายคลื่นความร้อน หรือลมพัดขวางเป็นต้น ผลจากปัจจัยเหล่านี้ถูกลดลงโดยการนำเอาปลอกกระจายความร้อน (Thermal sleeve)มาใช้ และเพื่อแก้ไขอาการคลาดเคลื่อน เนื่องจากความร้อนที่แพร่ออกจากลำกล้องปืนใหญ่ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ปากลำกล้องเพื่อส่งข้อมูลเกี่ยวกับการคลาดเคลื่อนของลำกล้องให้กับคอมพิวเตอร์คำนวณขีปนวิถีทำการแก้ไขทันทีซึ่งระบบมีเวลาในการเตรียมการยิงสำหรับกระสุนนัดแรกของปืนใหญ่รถถังดังนี้
ระบบขับเคลื่อนป้อมปืนของรถถังOplot ประกอบไปด้วย
ระบบกล้องเล็งกลางวันแบบ 1G46M เป็นกล้องเล็งกลางวันซึ่งพัฒนามาจากกล้องเล็งกลางวันแบบ1G46 บนรถถังแบบT-80U/UD แต่ได้เพิ่มระบบการปรับศูนย์แก้อาการเบี่ยงเบนของไยโร (Gyro Drifting)โดยอัตโนมัติ มีคุณสมบัติดังนี้
สำหรับการเล็งอาวุธนำวิถีนั้น ระบบกล้องเล็งกลางวัน 1G46M จะใช้โมดูลเลเซอร์แยกสำหรับการนำวิถีสำหรับอาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง ซึ่งใช้เทคนิดการปรับคลื่นลำแสงเลเซอร์ให้เกิดเป็นตาราง (Laser Modulation) สำหรับอ้างอิงจุดพิกัดที่อาวุธนำวิถีควรอยู่[7]การใช้งานสำหรับระบบ 1G46Mนั้น ง่ายเช่นเดียวกับระบบ1G46เดิม คือสามารถใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่พลยิงเพียงทาบจุดเล็ง วัดระยะด้วยเลเซอร์ แล้วยิง โดยมีระบบสำรองเป็นการวัดระยะด้วยเส้นวัด (Stadiametric rangefinding) เพื่อป้อนข้อมูลเข้าระบบคำนวณขีปนวิถี หรือ ใช้เส้นเล็งแบบกลไกที่มีมาให้ในกล้องเล็งอยู่แล้ว
กล้องเล็งสร้างภาพด้วยความร้อนแบบ PTT-2 พัฒนามาจากระบบกล้องเล็งกลางคืน TO1-KO1 หรือ TPN-4 Buran แต่ได้เปลี่ยนระบบภายในจากกล้องขยายแสง (Image intensifier) เป็นกล้องสร้างภาพความร้อน (Thermal Imaging Sight) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า มีระยะตรวจการณ์ไกลกว่า และสามารถใช้ได้ในโหมดPassiveเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการเชื่อมต่อเข้ากับระบบคำนวณขีปนวิถี และ ทำการปรับแนวเล็งให้เป็นแนวเดียวกับกล้องเล็งกลางวัน (ซึ่งแต่เดิม ระบบTPN-4 ไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบคำนวณขีปนวิถี และมีแนวเล็งต่างจากกล้องเล็งกลางวัน[9]) กล้องเล็งแบบสร้างภาพด้วยความร้อน PTT-2 ประกอบไปด้วยกล้องเล็งของพลยิง และจอไมโครมอนิเตอร์ของผู้บังคับรถในกล้องเล็งรอบทิศPNK-6รวมทั้งแผงควบคุม โดยปกติกล้องนี้จะถูกควบคุมการทำงานโดยพลยิง แต่ผู้บังคับรถสามารถควบคุมแยกจากพลยิงได้ไม่ว่าจะเป็นการเล็ง หรือทำการยิงทั้งปืนใหญ่รถถัง หรือปืนกลร่วมแกนโดยใช้ระบบควบคุม และจอมอนิเตอร์สร้างภาพด้วยความร้อนของตน กล้องเล็งสร้างภาพด้วยความร้อนนี้ช่วยให้ทั้งพลยิงและผู้บังคับรถสามารถทำการยิงได้อย่างแม่นยำในสภาพทัศนะวิสัยจำกัด เช่น มีหมอกควัน หรือการปฏิบัติในเวลากลางคืน
กล้องเล็งสร้างภาพด้วยความร้อนแบบPTT-2 ใช้ระบบรักษาการทรงตัวแบบไม่อิสระ 1แกน โดยเชื่อมต่อกับระบบรักษาการทรงตัวของกล้องเล็งแบบ1G46Mและระบบรักษาการทรงตัวปืนแบบ2E42M ผ่านระบบสัญญาณไฟฟ้า และ ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมกระจกสะท้อนหลักในการทำงาน [10] จากเดิมที่กล้องเล็งกลางคืนแบบTPN-4 จะใช้การเชื่อมต่อทางกลไกกับแคร่ปืน
กล้องสร้างภาพความร้อนของระบบ PTT-2 นั้น ใช้กล้องของบริษัทThales รุ่นCatherine FC
กล้องเล็งสร้างภาพด้วยความร้อนแบบ PTT-2มีคุณสมบัติดังนี้ [11]
เป็นระบบกล้องเล็งและตรวจการณ์ของ ผบ.รถ เป็นกล้องเล็งตรวจการณ์รอบทิศ (Panoramic Sight) มีระบบรักษาการทรงตัวอิสระแบบสองแกน ประกอบไปด้วยระบบดังต่อไปนี้ [12]
ความสามารถของระบบกล้องตรวจการณ์ PNK-6 มีดังต่อไปนี้ [13]
ระบบPNK-6 ถือว่าเป็นระบบที่ทำให้รถถังOplot Mมีความสามารถในการต่อต้านเป้าหมายได้ในแบบHunter-Killer ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และช่วยเพิ่มความตื่นรู้สถานการณ์ (Situation Awareness )ให้กับผู้บังคบรถได้ อย่างมีนัยยะสำคัญ
เมนูนำทาง
ที-84 ระบบเครื่องควบคุมการยิงใกล้เคียง
ที-84 ที-34 ที-80 ที-54/55 ที-44 ที-64 ที-34 เมนเตอร์ ที34 แคลลีโอพี ที1419แหล่งที่มา
WikiPedia: ที-84 http://www.armyrecognition.com/index.php?option=co... http://lreri.tripod.com/Presentation_SE_LRERI.pdf http://www.kotsch88.de/f_9k119.htm http://www.kotsch88.de/f_tpn-4.htm http://www.globalsecurity.org/military/world/ukrai... http://btvt.narod.ru/4/shtora1/shtora1.htm http://btvt.narod.ru/4/t84vst90skr2.htm http://www.npoelm.ru/production/sproduction/shtora... http://photopribor.ck.ua/en/products/defense/btt/p... http://photopribor.ck.ua/en/products/defense/equip...