ประวัติ ของ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด

การบินในช่วงแรก

ท่าอากาศยานแม่สอดเดิมเป็นท่าอากาศยานเล็ก ๆ อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย สร้างขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ใช้ในกิจการทหารอยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศ ต่อมามีการดำเนินการขนส่งพัสดุภัณฑ์ และผู้โดยสารในกิจการการบินพลเรือนขึ้น ซึ่งในระยะเริ่มแรกนั้นการดำเนินกิจการอยู่ในความรับผิดชอบของทหาร และใช้ท่าอากาศยานแม่สอดเป็นครั้งคราว

ในปี พ.ศ. 2473 กิจการการบินพลเรือนของประเทศได้แยกตัวออกจากกิจการบินทหาร โดยมีบริษัท เดินอากาศ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการการขนส่งทางอากาศ โดยได้รับสัมปทานการขนส่งทางอากาศเมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ได้เปิดขยายดำเนินการขนส่งทางอากาศในทาง พิษณุโลก-อำเภอเมืองตาก-แม่สอด ขึ้น จนเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทฯ จึงได้งดบินและยุบเลิกกิจการเนื่องจากมีอุปสรรคบางประการ โดยเฉพาะเครื่องบินของบริษัทฯ ถูกเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามยิงตก บริษัทฯ จึงงดทำการบินเมื่อ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2488 และยุบเลิกกิจการด้านการบินในปี พ.ศ. 2489

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศญี่ปุ่น ได้ใช้สนามบินแห่งนี้เป็นหน่วยบินในการปฏิบัติการทางอากาศ โจมตีฝ่ายสัมพันธมิตรในประเทศพม่า ซึ่งในขณะนั้นพื้นผิวทางวิ่ง ยังเป็นดินลูกรัง ทางวิ่งเป็น 05 - 23 ขนาดประมาณ 30 x 1,100 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่งและหนองน้ำ ยังไม่มีเครื่องช่วยในการเดินอากาศใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง สงบลงในปี พ.ศ. 2489 กองทัพอากาศ ได้ริเริ่มดำเนินการบินขึ้นใหม่

ต่อมาในปี พ.ศ. 2503-2504 สำนักงานการบินพลเรือนได้เห็นความสำคัญในการขนส่งทางอากาศในขณะนั้น จึงได้ปรับปรุงสภาพท่าอากาศยานโดยทำการเสริมพื้นผิวบดอัดดินลูกรังให้แน่นและเรียบขึ้น และทำการสร้างอาคารท่าอากาศยานและหอบังคับการบิน โดยเป็นอาคารไม้สองชั้นครึ่ง สำหรับให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ สร้างสถานีเครื่องช่วยการเดินอากาศ และได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องช่วยการเดินอากาศ NDB (NONDIRECTIONAL BEACON) ขึ้นในปีต่อมา ซึงในช่วงเวลาดัวกล่าวนี้ บริษัทเดินอากาศไทยได้นำเครื่อง DC-3 หรือ DAGOTA มาใช้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร สินค้า และพัสดุภัณฑ์[3]

ช่วงพัฒนาท่าอากาศยาน

ในปี พ.ศ. 2506 สำนักงานการบินพลเรือน กรมการขนส่ง ได้รับการยกฐานะเป็นกรม ชื่อว่ากรมการบินพาณิชย์ ในระหว่างนี้ท่าอากาศยานแม่สอดก็ได้เปิดให้บริการเรื่อยมา จนกระทั่ง บริษัทเดินอากาศไทย ได้ทำการงดบินในปี พ.ศ. 2513 เพื่อให้กรมการบินพาณิชย์ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานแม่สอดอีกครั้งเพื่อให้เป็นมาตรฐาน คือการสร้างทางวิ่งใหม่ กำหนดทางวิ่ง 09 - 27 พื้นผิวลาดยางแอสฟัลส์ ขนาด 30x1500 เมตร สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2515 และสร้างหอควบคุมจราจรทางอากาศขึ้นใหม่แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2517 แต่เมื่อสร้างเสร็จ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ก็ยังไม่เปิดบินที่ท่าอากาศยานแม่สอดทันที คงเปิดบริการ ขึ้น-ลง เฉพาะเครื่องบินของทางราชการ ทั้งทางราชการ หน่วยบินตำรวจและเกษตร เท่านั้น

ในปี พ.ศ. 2526 บริษัทเดินอากาศไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจข้อมูลที่จะเปิดบินใหม่ และกรมการบินพาณิชย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจทางวิ่ง อาคารผู้โดยสาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยได้ซ่อมแซมปรับแต่งอาคารที่ทำการท่าอากาศยานอีกครั้งหนึ่ง แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2527 จากนั้นจึงได้เปิดเส้นทางบิน พิษณุโลก-อำเภอเมืองตาก–แม่สอด-เชียงใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน 2528 กรมการบินพาณิชย์ได้ทำการซ่อมผิวทางวิ่ง ลานจอด ถนนต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน แล้วเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์ 2529

จากนั้นเดือน กรกฎาคม 2530 กรมการบินพาณิชย์ทำการขยายและต่อเติมอาคารที่ทำการท่าอากาศยาน ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน มิถุนายน 2531 ด้วยงบประมาณ 4,347,000 บาท โดยสร้างเป็นอาคารชั้นครึ่ง

ชั้นบนจัดเป็นห้องทำงานของฝ่ายบริหารและห้องประชุม ส่วนชั้นล่างเป็นส่วนที่ใช้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยได้ขยายเนื้อที่ใช้สอยมากขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 734 ตารางเมตร ประกอบด้วยบริเวณที่ทำการของบริษัทการบิน ห้องพักผู้โดยสารขาออก ห้องรับรองพิเศษ ห้องโถงสำหรับผู้โดยสารขาเข้าและผู้ รับ-ส่ง ผู้โดยสาร บริเวณที่รับกระเป๋า ร้านจำหน่ายของที่ระลึก รวมถึงห้องสุขาในพื้นที่ของอาคารที่ทำการเดิมนั้น จัดเป็นห้องทำงานของฝ่ายควบคุมจราจรทางอากาศ ห้องทำงานของฝ่ายช่างสื่อสารและเครื่องช่วยการเดินอากาศ ห้องทำงานของฝ่ายสื่อสารการบิน ห้องเก็บพัสดุและงานรักษาความสะอาด สถานที่ของฝ่ายบริหาร ห้องทำงานของตำรวจ และหน่วยรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน[3]

การปรับปรุงพัฒนาหลังจากเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ท่าอากาศยานแม่สอดได้ประกาศเป็นท่าอากาศยานศุลกากร ทำให้สามารถรับเที่ยวบินจากต่างประเทศได้[2] และต่อมาได้ต่อเติมและปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร พื้นที่ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง และด่านควบคุมโรคพร้อมสายพานลำเลียงกระเป๋า งบประมาณทั้งสิ้น 1,980,000 บาท

ในปีพ.ศ. 2556 ท่าอากาศยานแม่สอดได้ซ่อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร งบประมาณ 2,975,000 บาท โดยได้ปรับปรุงขยายทางวิ่ง (รันเวย์) ให้มีความยาวมากขึ้น จากเดิม 1,500 เมตร เป็น 2,100 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดโบอิง 737 และแอร์บัส เอ320 และขยายพื้นที่จอดเครื่องบิน ให้สามารถจอดเครื่องบินขนาดดังกล่าวได้ 3 ลำในเวลาเดียวกัน รวมถึงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ โดยแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2562[3] และกรมท่าอากาศยานมีแผนที่จะใช้ท่าอากาศยานแม่สอดเป็นฐานการบินในการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ จีน เวียดนาม และลาว[4]

ใกล้เคียง

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง–พัทยา) ท่าอากาศยานนานาชาติฮะมัด ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี

แหล่งที่มา

WikiPedia: ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.airports.go.th http://research.culture.go.th/ebook/nt142/files/as... https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000... https://www.posttoday.com/economy/news/574692 https://www.prachachat.net/property/news-310845 https://web.archive.org/web/20041025084229/http://... https://web.archive.org/web/20161021093527/http://... https://web.archive.org/web/20161021093538/http://... https://web.archive.org/web/20171226061534/http://...