สิ่งอำนวยความสะดวก ของ ท่าอากาศยานนานาชาติโอแฮร์

ทางวิ่ง

แผนผังท่าอากาศยานนานาชาติโอแฮร์

มีทางวิ่งทั้งหมด 6 เส้น วางตัวขนานกันอยู่ 3 คู่ ใน 3 ทิศทาง ทางวิ่งที่ยาวที่สุด คือ ทางวิ่ง 14R/32L ขนาด 3,962 x 60 เมตร (13,000 x 200 ฟุต) ทางวิ่ง 14L, 14R, 27L และ 27R ใช้ระบบลงจอด (Instrument Landing System) ระดับที่ 3 ส่วนทางวิ่งที่เหลือยกเว้นทางวิ่ง 04L ใช้เต็มระบบ

ทางวิ่งของโอแฮร์มีจุดตัดของทางวิ่งจำนวนมาก และสามารถก่อให้เกิดปัญหาได้จากภาวะที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือการจราจรที่คับคั่ง หรือกระแสลม ดังนั้นเจ้าหน้าหอบังคับการบินจึงต้องรอจนกว่าทางวิ่งจะว่างโดยตลอด ถึงจะอนุญาตให้ทางวิ่งอีกเส้นที่ตัดกันใช้งานได้ และหากเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินทำงานผิดพลาด ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และในช่วงหลายปีหลังมาอุบัติเหตุที่เครื่องบินเกือบจะเฉี่ยวหรือชน หรือต้องหักหลบจนเครื่องไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นแผนปรับปรุงที่ผ่านการอนุมัติไปแล้ว ก็จะช่วยแก้ปัญหากรณีนี้ไปได้อย่างมาก

ทางวิ่ง 3 ใน 4 เส้นเริ่มแรกตั้งแต่ปีพ.ศ. 2486 ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ตรงตามมาตรฐานปัจจุบัน แล้วก็ได้มีการสร้างทางวิ่งเพิ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2498, 2512 และ 2514 จนกระทั่งปีพ.ศ. 2546 ทางวิ่งเท่า 18/36 ได้ยกเลิกการใช้งานเป็นการถาวร ปัจจุบันเป็นทางขับ GG แทน

แผนปรับปรุงท่าอากาศยาน จะรือถอนทางวิ่งที่วางตัวตามทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างทางวิ่งที่วางตัวตามทิศตะวันออก-ตะวันตก เพิ่มขึ้นอีก 4 เส้น พร้อมทั้งขยายทางวิ่งเดิมทีวางตัวตามทิศตะวันออก-ตะวันตก 2 เส้น ส่วนทางวิ่งที่วางตัวตามทิศตะวันตกเฉียงใต้-ตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงใช้งานตามเดิม

ในบางครั้งทางวิ่ง 32L จะใช้ในช่วงที่สั้นลงจากความยาวจริงสำหรับนำเครื่องขึ้น โดยเครื่องบินจะขับเครื่องเข้าสู่ทางวิ่งจากทางขับ T10 (กรณีปกติ) หรือจากทางขับ M (กรณีอื่น) การใช้รูปแบบนี้ทำให้ทางวิ่งไม่ได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้ทางวิ่ง 09R/27L สามารถใช้งานไปได้พร้อมกัน

เนื่องจากมาตรการควบคุมเสียง โอแฮร์จึงได้รับอนุญาตให้ใช้ได้เพียงทางวิ่งเดียวระหว่างเวลา 24.00 - 06.00 น.

ทางวิ่งใหม่ตามแผนปรับปรุงท่าอากาศยานได้เตรียมให้สามารถรองรับเครื่องเอ 380 ได้ โดยก่อสร้างให้แข็งแรงขึ้นและกว้างขึ้นเพื่อรองรับเครื่องบนขนาดใหญ่ได้ และเนื่องจากแผนปรับปรุง นับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา ทางวิ่ง 09R/27L ได้เปลี่ยนชื่อเป็น 10/28 และนับตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ทางวิ่ง 9L/27R จะเปลี่ยนเป็น 9R/27L และประมาณเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ทางวิ่งเส้นใหม่ด้านเหนือ จะเรียกว่า 9L/27R[8]

การเดินทาง

  • รถยนต์ใช้เส้นทางหลวง I-190 ซึ่งแยกออกมาจาก I-90 (the Kennedy Expressway) ซึ่งมุ่งสู่ตัวเมองชิคาโก นอกจากนี้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถเข้าทางถนนแมนเฮม (Mannheim) ด้านตะวันออกของท่าอากาศยาน ส่วนคลังจะเข้าทางด้านทิศใต้
  • รถไฟของ ระบบรถไฟชิคาโก (Chicago Transir Authority) เส้นสีน้ำเงิน เชื่อมต่อกับระบบรถไฟใต้ดิน
  • ระบบรถไฟของท่าอากาศยาน VAL เชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1, 2, 3 และ 5 กับอาคารจอดรถระยะยาว ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีเที่ยวรถทุก 3-6 นาที

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

กลุ่มอาคารคลังสินค้าอยูทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527 แทนอาคารคลังสินค้าเดิมที่อยู่ตรงที่อาคารผู้โดยสาร 5 ในปัจจุบันโรงผลิตเครื่องบินดักลาสเดิมที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกผนวกเข้ากับกองบินรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (Air National Guard) และกองบินสำรอง (Air Force Reserve) แต่ก็ได้ปิดตัวลงไปเมื่อปีพ.ศ. 2541 และขณะอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นอาคารคลังสินค้า และอาคารผู้โดยสารเที่ยวบินเช่าเหมาลำบริเวณที่จอดเครื่องบินประกอบด้วยโรงจอดหลายหลังและมีขนาดจุเครื่องบินโบอิง 747ได้

ใกล้เคียง

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง–พัทยา) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานนครราชสีมา

แหล่งที่มา

WikiPedia: ท่าอากาศยานนานาชาติโอแฮร์ http://flychicago.com/Ohare/OhareHomepage.shtm http://www.flychicago.com/Statistics/stats/1208SUM... http://www.flychicago.com/news/pdf/GlobalTraveler1... http://www.flychicago.com/ohare/runways/plans.pdf http://www.gcr1.com/5010web/Rpt_5010.asp?au=PU&o=P... http://www.gcr1.com/5010web/airport.cfm?Site=ORD http://modernization.ohare.com/program.htm http://www.ohare.com/MasterPlan http://www.ohare.com/Ohare/OhareHomepage.shtm http://www.house.gov/transportation/aviation/09-09...