ชีวิตส่วนตัว ของ ท้าวทองกีบม้า_(มารี_กีมาร์)

หลวงสิทธิสยามการ (Luang Sitsayamkan) เขียนบรรยายถึงบุคลิกของท้าวทองกีบม้าในหนังสือ The Greek Favorite of The King of Siam ความว่า "ท้าวทองกีบม้าเป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น รูปร่างผอม ผมดำ ตาสีน้ำตาล ผิวหน้าสะอาดสดใส สูงราว 5 ฟุต รูปร่างเล็ก สดใส ร่าเริง แม้จะไม่สวยมาก แต่ก็เป็นหญิง "ผิวคล้ำ" ที่ดึงดูดใจและมีรูปร่างดี" แต่ข้อความดังกล่าวนี้หลวงสิทธิสยามการมิได้อ้างอิงแหล่งที่มาว่าใครกล่าว[26] ขณะที่ Mémoire en forme de lettre d'un anglais catholique อธิบายว่านางมีผิวขาวกว่าบิดาและในกระบวนพี่น้อง[9] และสันนิษฐานว่าท้าวทองกีบม้าน่าจะแต่งกายอย่างชาวสยามหรืออาจจะแต่งอย่างญี่ปุ่น ทั้งนี้ท้าวทองกีบม้าพูดภาษาไทย, ญี่ปุ่น และโปรตุเกสในการสื่อสาร เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าและสามีน่าจะสื่อสารกันด้วยภาษาโปรตุเกสมากกว่าภาษาไทย[27] ทั้งยังมีรสนิยมการแต่งบ้านแบบญี่ปุ่น ที่ตกแต่งโดยภาชนะ, ฉากญี่ปุ่น หรือแม้แต่ภาพที่ฝาผนัง และเป็นที่แน่ชัดว่าเธอไม่ชอบอาหารไทย โดยให้เหตุผลว่าไม่ถูกจริต[28]

ท้าวทองกีบม้า นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และเป็นผู้ที่เคร่งครัดในศาสนา ในงานบันทึกของบาทหลวงเดอ แบซ ได้กล่าวถึงพฤติกรรมท้าวทองกีบม้าหลังการสมรสกับเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ความว่า[13]

"...เขา [เจ้าพระยาวิชเยนทร์] ได้รับความชุ่มชื่นใจจากความเลื่อมใสศรัทธาและความกระตือรือร้นในพระศาสนาของภรรยาเป็นที่ยิ่ง จึงทำให้บ้านเรือนของเขานั้นเปรียบเสมือนว่าเป็นบ่อแห่งคุณธรรมความดีและพระศาสนา จนแทบกล่าวได้ว่า เป็นโรงธรรมยิ่งกว่าจะเป็นทำเนียบของขุนนางผู้ใหญ่ในแผ่นดินเสียอีก..."

นอกจากนี้นางมีใจเมตตาเผื่อแผ่คนทุกข์ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ท้าวทองกีบม้าได้อุดหนุนจุนเจือพวกเขาและเผยแผ่ศาสนาคริสต์ไปในตัว ดังปรากฏว่า[16]

"...ที่บ้านของนางจะมีลูกแกะ [ผู้ที่ได้รับการอบรมให้เข้ารีต] เช่นนั้นอยู่ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบตัว ซึ่งนางได้เลี้ยงดูเพื่อส่งเข้าคอกแห่งพระผู้เป็นเจ้า และเมื่อเด็กเหล่านั้นเติบใหญ่กล้าวัยขึ้นแล้ว ก็มอบเงินทองให้ไปตั้งตัว โดยเฉพาะหญิงสาวแล้วก็จัดให้มีเหย้าเรือนเป็นหลักเป็นฐานไปพร้อมกับกำชับให้ถือเอาแบบอย่างที่นางปฏิบัติอยู่..."

ในวันเซนา (Céna) ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาด้วยเป็นมื้อสุดท้ายที่พระเยซูร่วมโต๊ะอาหารกับพระสาวกหรือวันถือศีลอด ฟอลคอนและภริยาจะบำเพ็ญกุศลด้วยการอุทิศทรัพย์และแรงกายตนดูแลคนยากจน ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่เว้นแม้แต่การคุกเข่าเพื่อล้างเท้าให้ จนนางได้รับการขนานนามว่า "มารดาแห่งพวกคริสตชน"[16]

นางมีความเคร่งครัดในศาสนามาก แม้ขณะที่นางถูกคุมขัง นางก็ลอบออกจากที่คุมขังไปยังวัดในหมู่บ้านโปรตุเกสตอนตีสามโดยเรือเปิดประทุน และต้องกลับมาให้ทันก่อนหกโมงเช้า บางครั้งนางต้องทนความหนาวของอากาศหรือความชุ่มโชกจากฝน บาทหลวงเดอ แบซ ได้บันทึกไว้ว่า "...นางถึงกับเป็นลมหมดสติแน่นิ่งอยู่เป็นเวลา 12 ชั่วโมง"[22]

ใกล้เคียง

ท้าวทองกีบม้า (มารี กีมาร์) ท้าวทรงกันดาล (หุ่น) ท้าวทศรถ ท้าวทรุปัท ท้าวสุรนารี ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร ท้าวเวสวัณ ท้าวนาง ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ท้าวกุเวร

แหล่งที่มา

WikiPedia: ท้าวทองกีบม้า_(มารี_กีมาร์) http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-sty... http://books.google.com/books?id=QKgraWbb7yoC&pg=P... http://books.google.com/books?id=X9LXYwu7G50C&pg=P... http://books.google.com/books?id=cf4EAAAAMAAJ&q=%2... http://www.guideatbangkok.com/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E... http://jat-languagecafe.com/newsite/music/display.... http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=2&acti... http://www.lib.ru.ac.th/journal/kanom.html http://utcc2.utcc.ac.th/faculties/comarts/webjrsho... http://www.dailynews.co.th/Content/Article/61510/%...