นกเงือกคอแดง
นกเงือกคอแดง

นกเงือกคอแดง

นกเงือกคอแดง (อังกฤษ: Rufous-necked hornbill, Rufous-cheeked hornbill; ชื่อวิทยาศาสตร์: Aceros nipalensis) นกเงือกชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในประเทศไทย มีขนาดลำตัวยาว 116 เซนติเมตร ทั้งสองเพศมีลักษณะแตกต่างกัน ตัวผู้มีส่วนหัว คอและหน้าอกส่วนบนสีสนิมเหล็ก หน้าอกส่วนล่างสีน้ำตาลแดง อันเป็นที่มาของชื่อเรียก หลังส่วนล่างและปีกสีดำเหลือบเขียว ขนปีกบินตอนปลายสีขาว หางยาวสีดำขาว ม่านตาสีแดง แผ่นหนังรอบตาสีฟ้าอมเขียวสดใส ถุงใต้คอสีแดงอมส้ม จะงอยปากสีขาวออกเหลืองเรื่อ ๆ ด้านข้างมีสันนูนขึ้นเป็นแนวเฉียงจำนวน 8 อัน ส่วนนกตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า ขนบนลำตัวสีดำโดยตลอดนกเงือกคอแดง ได้ชื่อว่าเป็นนกเงือกชนิดที่มีความสวยงามที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะมีสีที่แตกต่างไปจากนกเงือกชนิดอื่นที่มีสีแค่สองสี คือ สีขาวกับสีดำ[2]นกเงือกคอแดง เป็นนกที่จะพบกระจายพันธุ์เฉพาะป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 800-2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พบตั้งแต่เนปาล, จีนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้, พม่า, ภาคเหนือของลาวและเวียดนามตอนเหนือ ในประเทศไทยพบได้ในเขตผืนป่าตะวันตก เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง, อุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์[2]มีพฤติกรรมหากินผลไม้บนระดับเรือนยอดของป่า บางครั้งพบกระโดดเก็บผลไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นดิน เสียงร้องคล้ายเสียงเห่าของสุนัข ในประเทศไทยพบทำรังวางไข่ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม นกเงือกทำรังบนโพรงไม้สูงราว 10-30 เมตร จากพื้นดิน นกตัวเมียจะปิดโพรงจากภายในโดยใช้มูล เศษผลไม้และอาหารที่นกสำรอกออกมาผสมกันดินโคลนที่นกตัวผู้นำมา วางไข่สีขาวครั้งละ 2 ฟอง ระยะฟักไข่ประมาณ 30 วัน นอกฤดูผสมพันธุ์นกเงือกคอแดงจะอยู่กันเป็นคู่ ๆ หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ 4-5 ตัว[3]นกเงือกคอแดง จัดเป็นนกเงือกอีกชนิดหนึ่งที่ตกอยู่ในสภาวะถูกคุกคามใกล้สูญพันธุ์ เพราะต้องการป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากในการอยู่อาศัยและแพร่ขยายพันธุ์ ในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นเดียวกับนกเงือกชนิดอื่น ๆ[4]